กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” จับขบวนการนายหน้า เสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 ราย ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ย่านสุขุมวิท พบเด็กสาวอายุน้อยที่สุดเพียง 14 ปีเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” เข้าช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมขบวนการนายหน้าเสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ย่านสุขุมวิท พบเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงหน้าตาดี อายุน้อยสุดเพียง 14 ปี เท่านั้น
โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ โอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์เรลโรด (โอ.ยู.อาร์.) ขอให้กรมการปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีพบบุคคลมีพฤติการณ์ในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ต่อมากรมการปกครองโดยสำนักการสอบสวนและนิติการ ได้สืบสวนแล้ว พบบุคคลมีพฤติการณ์เป็นนายหน้านำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เสนอขายบริการทางเพศให้กับนักเที่ยวที่มาใช้บริการในสถานบริการ ชื่อ 789 บาร์ ภายในซอยสุขุมวิท 7 โดยแม่เล้าทำหน้าที่เชียร์แขกให้ดื่มเหล้าเบียร์และโฆษณาขายบริการทางเพศกับนักเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย หากลูกค้าถูกใจสามารถจ่ายค่าตัวแล้วพาเด็กออกไปร่วมประเวณีได้ทันที
ขณะที่กลางดึกคืนวาน (15 มี.ค.) เวลาประมาณเวลา 21.00 น. หลังพนักงานฝ่ายปกครอง รวบรวมพยานได้ชัดเจนแล้ว จึงเริ่มปฏิบัติการ ขณะเข้าจับกุม พบร้านเป้าหมายและบริเวณโดยรอบ กว่า 30 ร้าน ล้วนมีลักษณะเป็นผับ บาร์ กำลังเปิดเพลง ดื่มกินอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าพนักงานเข้ามาตรวจสอบต่างพากันทยอยปิดร้านกันอย่างรวดเร็ว
โดยพนักงานฝ่ายปกครอง ได้เข้าจับกุมตัว น.ส.รัชดา ศรีตะเขต อายุ 42 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นแม่เล้าแสวงหาประโยชน์จากการนำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ โดยตั้งข้อหาหนัก ในความผิดฐานค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ,จัดให้มีการค้าประเวณี ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ สามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ จำนวน 3 ราย โดยมีเด็กอายุน้อยสุดเพียง 14 ปี 1 ราย และ อายุ 15 ปี 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กหญิงผู้เสียหายทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ถูกจับได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เพื่อดำเนินคดีต่อไป ต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นขบวนการค้ามนุษย์ไม่ใช่การค้าประเวณี ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับ และมีผลต่อการจัดลำดับเทียร์ ซึ่งทางการไทยพยายามที่จะกวดล้างขบวนการนี้ให้หมดไป โดยหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ขบวนการเหล่านี้มีการปรับตัวมาดำเนินการผ่านออนไลน์ และเริ่มกลับมาดำเนินการผ่านหน้าร้านแล้ว ไม่คิดว่าจะยังมีธุรกิจแบบนี้อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร วันนี้เราพบว่าแม่เล้ามีการนำเด็กหญิงมาเสนอขายให้ลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทยที่มาเที่ยวสถานบริการเลือกซื้อบริการทางเพศ ไม่ต่างจากเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนไทย ซึ่งผู้ประกอบการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม สถานบริการเป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้เยาวชนเข้าไปทำงาน หากพบมีพฤติการณ์แอบแฝงค้าประเวณีเด็กซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จะมีโทษตามกฎหมายสูงมาก
“เรื่องการเอาเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศด้วยการค้าประเวณีทางเพศเป็นรูปแบบหนึ่งของการค้ามนุษย์ จะบอกว่ายินยอมไม่ได้ เพราะเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่กฏหมายห้ามอย่างเด็ดขาด รวมถึงยังมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่มีโทษสูงมาก และเคยดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดมาแล้ว รับโทษไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี เป็นความผิดหลายกรรม” นายรณรงค์ กล่าว
นายรณรงค์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ สามารถแจ้ง ผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ damrongdhama.dopa.go.th/ หรือ แอปพลิเคชั่น “Dopa Help” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android
ด้านนายสุปรีย์ เสาวิจิตร ผู้อำนวยการองค์การโอ.ยู.อาร์. เปิดเผยว่า ผู้กระทำความผิด มักจะเลือกเด็ก หรือ บุคคลที่มีความเปราะบางอันเนื่องมาจากฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม หรือ การไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงจากผู้ปกครอง หรือ ขาดความยับยั้งชั่งใจจากการหลอกล่อของผู้กระทำความผิด โอ.ยู.อาร์.ในฐานะองค์การไม่แสวงหากำไรระหว่างประเทศ ที่จัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใข้กฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในเด็ก จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหาย และครอบครัว ในการฟื้นฟู ดูแลในระยะยาว ทั้งด้านกระบวนการยุติธรรม การศึกษา ครอบครัว และ ปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ ได้มีโอกาสที่ดีกว่าในการดำเนินชีวิตต่อไป .-สำนักข่าวไทย