ปกครอง ทลายสถานบริการกลางกรุงค้ามนุษย์

กรุงเทพฯ 16 มี.ค. – กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” จับขบวนการนายหน้า เสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 ราย ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ย่านสุขุมวิท พบเด็กสาวอายุน้อยที่สุดเพียง 14 ปีเท่านั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” เข้าช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมขบวนการนายหน้าเสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ย่านสุขุมวิท พบเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงหน้าตาดี อายุน้อยสุดเพียง 14 ปี เท่านั้น
โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ โอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์เรลโรด (โอ.ยู.อาร์.) ขอให้กรมการปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีพบบุคคลมีพฤติการณ์ในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ต่อมากรมการปกครองโดยสำนักการสอบสวนและนิติการ ได้สืบสวนแล้ว พบบุคคลมีพฤติการณ์เป็นนายหน้านำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เสนอขายบริการทางเพศให้กับนักเที่ยวที่มาใช้บริการในสถานบริการ ชื่อ 789 บาร์ ภายในซอยสุขุมวิท 7 โดยแม่เล้าทำหน้าที่เชียร์แขกให้ดื่มเหล้าเบียร์และโฆษณาขายบริการทางเพศกับนักเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย หากลูกค้าถูกใจสามารถจ่ายค่าตัวแล้วพาเด็กออกไปร่วมประเวณีได้ทันที


ขณะที่กลางดึกคืนวาน (15 มี.ค.) เวลาประมาณเวลา 21.00 น. หลังพนักงานฝ่ายปกครอง รวบรวมพยานได้ชัดเจนแล้ว จึงเริ่มปฏิบัติการ ขณะเข้าจับกุม พบร้านเป้าหมายและบริเวณโดยรอบ กว่า 30 ร้าน ล้วนมีลักษณะเป็นผับ บาร์ กำลังเปิดเพลง ดื่มกินอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นเจ้าพนักงานเข้ามาตรวจสอบต่างพากันทยอยปิดร้านกันอย่างรวดเร็ว
โดยพนักงานฝ่ายปกครอง ได้เข้าจับกุมตัว น.ส.รัชดา ศรีตะเขต อายุ 42 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นแม่เล้าแสวงหาประโยชน์จากการนำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ โดยตั้งข้อหาหนัก ในความผิดฐานค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี ,จัดให้มีการค้าประเวณี ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ สามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ จำนวน 3 ราย โดยมีเด็กอายุน้อยสุดเพียง 14 ปี 1 ราย และ อายุ 15 ปี 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กหญิงผู้เสียหายทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ถูกจับได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เพื่อดำเนินคดีต่อไป ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้เป็นขบวนการค้ามนุษย์ไม่ใช่การค้าประเวณี ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับ และมีผลต่อการจัดลำดับเทียร์ ซึ่งทางการไทยพยายามที่จะกวดล้างขบวนการนี้ให้หมดไป โดยหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ขบวนการเหล่านี้มีการปรับตัวมาดำเนินการผ่านออนไลน์ และเริ่มกลับมาดำเนินการผ่านหน้าร้านแล้ว ไม่คิดว่าจะยังมีธุรกิจแบบนี้อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร วันนี้เราพบว่าแม่เล้ามีการนำเด็กหญิงมาเสนอขายให้ลูกค้าทั้งชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทยที่มาเที่ยวสถานบริการเลือกซื้อบริการทางเพศ ไม่ต่างจากเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนไทย ซึ่งผู้ประกอบการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม สถานบริการเป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้เยาวชนเข้าไปทำงาน หากพบมีพฤติการณ์แอบแฝงค้าประเวณีเด็กซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จะมีโทษตามกฎหมายสูงมาก


“เรื่องการเอาเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศด้วยการค้าประเวณีทางเพศเป็นรูปแบบหนึ่งของการค้ามนุษย์ จะบอกว่ายินยอมไม่ได้ เพราะเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่กฏหมายห้ามอย่างเด็ดขาด รวมถึงยังมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่มีโทษสูงมาก และเคยดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดมาแล้ว รับโทษไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี เป็นความผิดหลายกรรม” นายรณรงค์ กล่าว

นายรณรงค์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ สามารถแจ้ง ผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ damrongdhama.dopa.go.th/ หรือ แอปพลิเคชั่น “Dopa Help” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android

ด้านนายสุปรีย์ เสาวิจิตร ผู้อำนวยการองค์การโอ.ยู.อาร์. เปิดเผยว่า ผู้กระทำความผิด มักจะเลือกเด็ก หรือ บุคคลที่มีความเปราะบางอันเนื่องมาจากฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม หรือ การไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงจากผู้ปกครอง หรือ ขาดความยับยั้งชั่งใจจากการหลอกล่อของผู้กระทำความผิด โอ.ยู.อาร์.ในฐานะองค์การไม่แสวงหากำไรระหว่างประเทศ ที่จัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใข้กฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในเด็ก จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหาย และครอบครัว ในการฟื้นฟู ดูแลในระยะยาว ทั้งด้านกระบวนการยุติธรรม การศึกษา ครอบครัว และ ปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ ได้มีโอกาสที่ดีกว่าในการดำเนินชีวิตต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]