ทำเนียบรัฐบาล 15 มี.ค.-ที่ประชุมครม.อนุมัติงบกลางวงเงิน 1,848 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทน ค่าจ้างให้บุคลากรทางการศึกษา หวังเป็นแรงจูงใจให้อยู่ในระบบ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าตอบแทนและค่าจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และโรงเรียน กรอบวงเงิน 1,848 ล้านบาท ซึ่งการจัดสรรงบกลางดังกล่าว มาจากข้อสั่งการที่นายกรัฐมนตรีต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการศึกษา ทั้งธุรการโรงเรียน ครูคลังสมองและตำแหน่งอื่น ๆ ไม่ให้ถูกเลิกจ้าง มีกำลังใจปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการสอนและสนับสนุนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกล สามารถรักษาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญการปฏิบัติงานด้านเอกสาร ให้ครูไม่ต้องเจียดเวลาการสอนไปทำงานธุรการจนกระทบต่อการสอน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ เป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีความจำเป็นต้องจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 61,119 อัตรา 16 ตำแหน่ง เช่น ธุรการโรงเรียน ครูรายเดือน เพื่อแก้ไขปัญหาโรงเรียนขาดแคลนครูขั้นวิกฤติ และครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ ซึ่งข้อมูลเดือนตุลาคม 2564 ต้องใช้งบประมาณ 8,315 ล้านบาทแต่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 5,063 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ และสพฐ.ขอรับการจัดสรรงบกลางส่วนที่ยังขาดอีก 3,251 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่ขอมา แต่อนุมัติกรอบวงเงิน 1,848 ล้านบาทเท่าที่จำเป็นและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งข้อมูลเดือนมกราคม 2565 มีการจ้างอยู่ 58,873 อัตรา เนื่องจากลูกจ้างลาออกไปแล้ว 2,246 อัตรา
“นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อบุคลากรทางการศึกษา จึงเห็นชอบให้จัดสรรงบกลาง เพื่อเป็นค่าตอบแทนและค่าจ้างตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการศึกษาจะส่งผลสำคัญต่อคุณภาพการศึกษาของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร จึงต้องให้ความมั่นคงเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ครูยังอยู่ในระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ และการศึกษาที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย