นพ.ชลน่าน หนุนเปิดวิสามัญพิจารณากฎหมายลูก

พรรคเพื่อไทย 11 มี.ค.-“ชลน่าน” ยันรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขกำหนดชัดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องหารด้วย 100 หนุนเปิดวิสามัญพิจารณาวาระ 2 และ 3 ป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ยืนยันในรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ระบุชัดเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าจะต้องนำคะแนนจากบัญชีรายชื่อทั้งหมดหารด้วย 100 และการคำนวณแต่ละพรรคการเมืองเป็นสัดส่วนสัมพันธ์โดยตรง  และเป็นไปตามค่าเฉลี่ย   ส่วนคำว่าพึงมีที่ยังมีในรัฐธรรมนูญนั้นไม่เกี่ยวกับการคำนวณในครั้งนี้ และทุกร่างมีวิธีการคำนวณแบบนี้อยู่แล้ว  จึงไม่มีการนำ 500 มาหาร  และไม่เกี่ยวกับเรื่องเสียงตกน้ำ


หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  ยังเห็นว่า กรรมาธิการฯควรพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ   ให้เสร็จภายในเดือนเมษายนนี้   และหากเป็นไปได้อยากให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาในวาระ 2 และ 3  เพราะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับ ควรพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  เพราะเป็นกฎกติกาหลักของประเทศ  หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น   จะได้ไม่ต้องมาเป็นเงื่อนไขทำให้ประเทศเดินต่อไม่ได้

ส่วนกรณีที่ ส.ว. และพรรคไทยภักดี  เสนอไม่ให้เอาผิดกับประชาชนที่รับเงินซื้อเสียงและกันเป็นพยาน  นพ.ชลน่าน  กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะเสนอได้ แต่ไม่เกี่ยวกับการทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในครั้งนี้  เพราะไม่มีในหลักการที่รับมา  แต่ประเด็นเรื่องค่าสมาชิกอยู่ในหลักการ   ซึ่งพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าไม่ควรกำหนดไว้ในกฎหมายลูก ควรให้พรรคการเมืองเป็นผู้กำหนด  ว่าจะเก็บหรือไม่เก็บ   หากเก็บต้องเก็บจำนวนเท่าไหร่


นพ.ชลน่าน  ยังกล่าวถึงข้อเสนอที่ให้ กกต. ตั้งกล้องหน้าหน่วยเลือกตั้ง ว่า เป็นมาตรการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้มีการใช้สิทธิอย่างยุติธรรม   ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ละเมิดหรือผิดหลักการเลือกตั้งทั้งตรงและลับ  เพราะเคยมีประสบการณ์กรณีคนแอบถ่ายตอนลงคะแนนและซูมภาพตอนกาบัตร  จนต้องถูกฟ้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะทั่วประเทศมาแล้ว  ซึ่งเป็นเรื่องต้องระมัดระวัง สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ   นพ.ชลน่าน  ยืนยันว่าจะต้องรอเปิดสมัยประชุมในเดือนพฤษภาคมนี้ก่อน  เพราะต้องดูว่าหากมีกฎหมายสำคัญเข้าที่ประชุมต้องทำเรื่องนั้นก่อน    ขณะที่สถานการณ์การเมืองขณะนี้แล้วแต่ว่าใครจะประเมินอย่างไร  โดยอาจจะเกิดเหตุการณ์ก่อนพฤษภาคม  หรือ รัฐบาลอาจจะอยู่จนครบวาระ แต่ฝ่ายค้านยืนยันจะทำหน้าที่จนถึงที่สุด  และเห็นว่า หากรัฐบาลไม่มีความพร้อมและไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้  ก็ไม่ควรเป็นรัฐบาลต่อไป.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา