พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ ( 11 มี.ค.) “ราเมศ” หนุนประชาชนเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่เสียเงิน ย้ำหลักสุจริต เสรี มีส่วนร่วม
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง ได้หยิบยกในประเด็นเงินค่าบำรุงพรรคการเมือง ว่าหลักการมีส่วนร่วมในทางการเมือง สิทธิขั้นพื้นฐานคือ ประชาชนสามารถเข้าร่วมดำเนินกิจกรรมกับพรรคการเมืองได้อย่างกว้างขวางและเต็มที่ โดยเฉพาะการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ควรมีจำนวนเงินมาขวางกั้นการเข้าเป็นสมาชิกพรรค ไม่ว่าประชาชนจะมีฐานะ ร่ำรวยหรือไม่มีฐานะ ก็จะต้องเกิดความเท่าเทียมกันในการเข้ามีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองโดยการเป็นสมาชิก เงินจำนวน 100 บาท หรือ 2000 บาทกรณีรายปี อาจจะดูไม่มากสำหรับคนที่มีฐานะ แต่สำหรับชาวบ้านเป็นจำนวนเงินที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างแน่นอน
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคก่อนที่จะมีการยกเลิกสมาชิกหากไม่มีการยืนยัน สมัย คสช เคยมีสมาชิกมากที่สุดกว่า 3 ล้านคน โดยกฎหมายที่ผ่านมามีทั้งเก็บเงินค่าบำรุงและไม่มีการเก็บค่าบำรุง แต่กรณีไม่เก็บเงินค่าบำรุงพรรค ประชาชนจะให้ความสนใจเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด การเข้ามามีส่วนร่วมในหลายเรื่องมีค่ามากกว่าเงิน 100 บาท เช่น การนำเสนอแนวนโยบาย การช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมและผลงานของพรรค รวมถึงการร่วมในการดำเนินกิจกรรมกับพรรคในรูปแบบอื่นๆมากมาย อาจจะมีการอ้างว่าเพื่อป้องกันการระดมใช้วิธีการฉ้อฉลของพรรคการเมืองที่จะไปนำเอาสำเนาบัตรประชาชนแล้วมาปลอมการสมัคร ในประเด็นนี้คิดว่า ไม่ควรตั้งหลักการฉ้อฉลของพรรคการเมืองบางพรรคมาปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ควรหาวิธีการป้องกันสิ่งเหล่านี้อย่างรัดกุมและจริงจัง ที่จริงแล้ว กฎหมายพรรคการเมืองในปัจจุบัน มาตรา 30 ก็ได้กำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค และ ในส่วนของประชาชนก็ระบุไว้ในมาตรา 31 ไว้ชัด ว่าห้ามมิให้ เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก ฉะนั้นการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองไม่ให้มีการเก็บค่าบำรุงจากประชาชนเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม คือแนวทางที่เหมาะสมที่สุด และในภาคปฎิบัติของนายทะเบียนพรรคการเมือง และพรรคการเมืองก็จะต้องร่วมกันส่งเสริมให้การเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้อย่างเสรีและสุจริต เพราะหากจูงใจให้เป็นสมาชิกพรรคด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย อาจจะถูกยุบพรรคและติดคุกได้ตามกฎหมายปัจจุบันอยู่แล้ว เชื่อว่าประเด็นนี้จะมีการถกเถียงกันในชั้นคณะกรรมาธิการอย่างกว้างขวางแน่นอน.- สำนักข่าวไทย