นายกฯ พอใจการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูคืบหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 11 มี.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ พอใจการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ขณะที่ ศธ.ตั้งสถานีแก้หนี้ครู 558 แห่งทั่วประเทศ ครู-บุคลากรทางการศึกษา ลงทะเบียนเข้าร่วมแล้วกว่า 2.9 หมื่นราย


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่ง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สนองนโยบายในการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครูมาอย่างต่อเนื่อง และสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติ โดยได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาในระดับกระทรวงขึ้น เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครูภายใต้แนวทางการลดภาระหนี้โดยรวมของครูให้น้อยลง ให้ครูมีรายได้ต่อเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของเงินเดือน พร้อมกำหนดแนวทางขับเคลื่อนในเฟสแรกด้วยการลดดอกเบี้ย เปิดโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ครูรายใหญ่เข้าร่วม ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 70 แห่ง จากทั้งหมด 108 แห่ง เข้าร่วมปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงตั้งแต่ 0.05-1.0% และมีสหกรณ์ 11 แห่ง สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงให้เหลือต่ำกว่า 5% มีครูได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน และกระทรวงศึกษาธิการจะเร่งขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศในเฟสถัดไป โดยล่าสุดได้จัดตั้งสถานีแก้หนี้ครูระดับเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษา จำนวน 481 แห่ง ระดับจังหวัด 77 จังหวัด รวม 558 สถานีทั่วประเทศ

นายธนกร กล่าวอีกว่า ศธ.ได้เปิดโครงการ “สร้างโอกาสใหม่ให้ครูไทย” เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เปิดให้ครูและบุคลากรทางศึกษาเข้ามาลงทะเบียนผ่านออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://td.moe.go.th เพื่อแจ้งความประสงค์เข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ในรอบแรกเปิดลงทะเบียนระหว่าง 14 ก.พ.-14 มี.ค.65 ซึ่งขณะนี้ (10 มี.ค.65) มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว จำนวน 29,817 ราย ซึ่ง ศธ.จะส่งต่อให้เขตพื้นที่ฯ เร่งดำเนินการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันจะเดินหน้าหาแนวทางแก้ไขที่หลากหลาย รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับกฎระเบียบต่างๆ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัด และเพื่อแบ่งเบาการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งจะช่วยทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อันจะส่งผลต่อคุณภาพทางการศึกษาให้ดีขึ้นตามไปด้วย


“นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยประกาศให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” โดยครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนกว่า 9 แสนคน มีหนี้สินรวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้ครูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความคืบหน้าการดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ โดยการแก้ไขปัญหาหนี้ครูจะเป็นตัวอย่างสำคัญในการขยายไปสู่การแก้ปัญหาหนี้ให้กับข้าราชการส่วนอื่นๆ รวมถึงการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนทุกมิติ พร้อมกำชับให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ครูอย่างเคร่งครัด โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ให้กับทุกกลุ่มให้เป็นรูปธรรมชัดเจนและยั่งยืน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา