รัฐสภา 3 มี.ค.-“สมคิด” มอง “สาธิต” นั่งปธ.กมธ.แก้กฎหมายลูก ไม่มีอำนาจชี้นำ เหตุต้องใช้เสียงกมธ.ตัดสิน ลั่น เพื่อไทยพร้อมสู้ มองอาจมีอุบัติเหตุการเมืองได้ ผู้มีอำนาจไม่พอใจบัตร 2 ใบ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ รัฐสภา เชื่อว่า การทำงานภายในกมธ.จะไม่มีปัญหา การที่ได้นายสาธิต ปิตะเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ และรมช.สาธารณสุข มาทำหน้าที่ประธานกมธ.จะไม่มีผลหรืออิทธิพลชี้นำใด เนื่องจากตำแหน่งประธานกมธ. คือผู้กำกับและควบคุมการประชุมให้เรียบร้อย
“คนที่เป็นประธานกมธ. ใช่ว่าจะกำหนดอะไรก็ได้ เพราะร่างกฎหมายที่รับหลักการเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการมีหลักการกำหนดไว้ ดังนั้นจะหนีจากหลักการนั้นไม่ได้ อีกทั้งกมธ.ต้องรับฟังเสียงผู้แปรญัตติและกมธ.ที่เสนอความเห็นด้วย โดยส่วนตัวจะขอสงวนความเห็นไว้เพื่อนำไปอภิปรายในที่ประชุมร่วมรัฐสภาด้วย และพรรคเพื่อไทยพร้อมจะสู้ แม้จำนวนเสียงสู้ไม่ได้ แต่ต้องสู้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ประเด็นที่คาดว่าจะสู้กัน อาทิ การใช้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส.ให้เป็นหมายเลขเดียวกัน ทั้งผู้สมัครแบบเขตและแบบบัญชีรายยชื่อ หรือเบอร์เดียวทั้งประเทศ แม้ร่างพ.ร.ป.ที่รับหลักการทั้ง 4 ฉบับจะกำหนดให้เป็นคนละหมายเลข แต่จากอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา เช่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ที่อภิปรายระบุว่าขอให้ใช้หลักการง่าย ๆ เชื่อว่าแนวโน้มจะใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ ซึ่งการใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เคยระบุไว้ว่าทำให้มีบัตรเสียน้อย ประชาชนเข้าใจง่าย ไม่สับสน ซึ่งการใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศจะเป็นประโยชน์กับทุกพรรคการเมืองด้วย
“การกำหนดเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ แน่นอนว่าพรรคใหญ่อาจได้เปรียบ เพราะมีฐานสมาชิกพรรคที่กว้าง แต่การกำหนดคนละหมายเลขสามารถทำได้เปรียบเช่นกัน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่วิตกกังวล เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งการใช้เบอร์เดียวหาเสียง หรือคนละเบอร์ พรรคเพื่อไทยผ่านมาได้หมด” นายสมคิด กล่าว
เมื่อถามถึงมุมมองการทำงานของส.ว.ในชั้นกมธ.ต่อการเขียนกฎหมายลูก นายสมคิด กล่าวว่า ส.ว.ชุดปัจจุบันมาจากการแต่งตั้งของคสช. ดังนั้น เปรียบเหมือนเป็นวัวคอกไหน ต้องเข้าคอกนั้น แม้ส.ว.บางคนมีความคิดอิสระ การปฏิบัติมีไม่กี่คนที่แยกออก แต่ความชัดเจนทั้งหมดจะอยู่ที่การลงมติ เหมือนที่ ส.ว. ลงมติไม่รับหลักการร่างกฎหมายลูกของพรรคฝ่ายค้าน
ส่วนสถานการณ์การเมืองที่สอดคล้องกับการแก้กฎหมายลูกมีแนวโน้มทำให้เกิดอุบัติการเมืองได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะผู้มีอำนาจไม่พอใจเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่จะแก้กลับคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เมื่อไม่ได้ดั่งใจ และหากเขามองว่าตนเองเสียงประโยชน์หรือพ่ายแพ้ อาจตัดสินใจยุบสภาได้ แต่ตนขอเรียกร้องให้เคารพกติกาและคำนึงถึงประชาชนด้วย.-สำนักข่าวไทย