แนะ“ยิ่งลักษณ์” กลับมาพิสูจน์ตัวก่อนท้าทายคนอื่น

ทำเนียบรัฐบาล 1 มี.ค.-โฆษกรัฐบาล โต้ “ยิ่งลักษณ์” หลังถามนายกฯ พร้อมคุยด้วยหรือไม่ จี้ให้กลับมาพิสูจน์ตัวตามกระบวนการยุติธรรมดีกว่าจะท้าทายคนอื่น ซัดเป็นถึงอดีตนายกฯ อย่าพูดในสิ่งที่ตัวเองยังทำไม่ได้  


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีจะคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ โดยยืนยันว่า นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมจะพูดคุยกับทุกคน ทุกฝ่ายอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เพราะทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ แต่ฝากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดด้วยว่าผู้ที่มีคดีติดตัวทุกคน ควรจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือไม่

“ถ้ายังคิดว่าประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน ทางที่ดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ควรกล้าที่จะกลับมารับผิดชอบความผิดที่ตัวเองทำไว้กับประเทศเสียก่อน แล้วค่อยมาท้าทายคนอื่นว่ากล้าหรือไม่จะดีกว่า เพราะคนที่เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ควรจะพูดในสิ่งที่แม้แต่ตัวเองก็ยังทำไม่ได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อหลักกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นหลักประกันของการสร้างความเป็นธรรมของสังคมที่เท่าเทียม โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักการทำหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นธรรม ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องตอบคำถามสังคมได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤติรัสเซีย-ยูเครน คงเป็นความตั้งใจที่อยากจะดิสเครดิตรัฐบาล โดยใช้ประเด็นภายนอกมาเชื่อมโยงกับเรื่องภายใน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วขณะนี้ทุกประเทศได้รับผลกระทบทั้งหมด เพียงแต่จะมากหรือน้อย แตกต่างกันไปตามบริบทของตน

“รัฐบาลไทยขอย้ำว่านายกรัฐมนตรีติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรองรับไว้ โดยเฉพาะการสำรองพลังงาน และการรักษาระดับราคาสินค้า อัตราแลกเปลี่ยน การค้าและการลงทุน รวมทั้งมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย