ทำเนียบรัฐบาล 1 มี.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณกษัตริย์ซาอุดีอาระเบียพระราชทานอัลกุรอานให้ชาวไทย ขณะเที่ยวบินแรกจากกรุงริยาดถึงไทยแล้ววานนี้ เชื่อกระชับสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทั้งขยายการท่องเที่ยว
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรู้สึกยินดีและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะชีช อัลชะอูด แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในโอกาสที่ทรงพระราชทานอัลกุรอานจำนวน 50,060 เล่มแก่ชาวไทยมุสลิม โดยอัลกุรอานที่ทรงพระราชทานให้จะมีขนาดต่าง ๆ และแปลเป็นภาษาต่าง ๆ โดยมีพิธีส่งมอบไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่กรุงเทพฯ โดยมีรองหัวหน้าคณะผู้แทนของราชอาณาจักร ณ สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเทพฯ ผู้แทนจากกระทรวงกิจการศาสนาอิสลามแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ตัวแทนจากภาคส่วนการเมืองและอิสลาม นักวิชาการและผู้สนับสนุนจากจังหวัดต่าง ๆ ของไทยร่วมพิธี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงกิจการศาสนาอิสลามแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักพิมพ์อัลกุรอาน คิง ฟาฮัด (King Fahd Complex for the Printing of the Holy Qurโ€an) จะจัดส่งสำเนาอัลกุรอานให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในการส่งมอบของขวัญก่อนเดือนรอมฎอนจะมาถึง โดยการส่งมอบดังกล่าว ถือเป็นการต่อยอดจากที่ซาอุดีอาระเบียเคยส่งมายังประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นโอกาสสำคัญในการสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งนี้ อัลกุรอานได้ถูกแปลกว่า 76 ภาษา และทางสำนักพิมพ์ ฯ ได้เพิ่มอัตราการผลิตขึ้นมากกว่า 100% คือ จาก 7 ล้านเล่มต่อปี เป็น 20 ล้านเล่มต่อปี โดยมีคุณภาพผลงานระดับสูง โดยจนถึงสิ้นปี 2564 ผลิตแล้วมากกว่า 345 ล้านเล่ม และมากกว่า 320 ล้านเล่มในจำนวนนี้ ถูกแจกจ่ายเป็นของขวัญไปสู่ชาวมุสลิมทั่วโลก
“การส่งมอบดังกล่าวสะท้อนถึงการส่งเสริมความร่วมมือและสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ที่มีปฏิสัมพันธ์ถึงมิติด้านสังคม รวมถึงบทบาทของไทยที่ได้รับการยอมรับในชุมชนมุสลิมระหว่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายในการส่งเสริม และสนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ เสรีภาพและปรองดอง รวมถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์ในสังคม” นายธนกร กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าล่าสุด วานนี้ (28 ก.พ.) เวลา 18.05 น. เที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบิน Saudi Arabian Airlines จากเมืองเจดดาห์ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้ถึงประเทศไทยเป็นเที่ยวบินแรก โดยมีคณะนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาจำนวน 71 คน โดยดำเนินการตามมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เชื่อมั่นว่าเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้เป็นหนึ่งปัจจัยความสำเร็จจากการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี
“มั่นใจว่าการเปิดตารางเที่ยวบินตรง กรุงริยาด -กรุงเทพฯ กรุงทพฯ – กรุงริยาดนี้จะช่วยส่งเสริมการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว และช่วยให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการเดินทาง สามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ได้สะดวก ทั้งยังเป็นโอกาสต่อยอดขยายตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เช่น ยุโรป และตะวันออกกลาง เป็นต้น” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย