จับตาผู้แทนไทยแสดงท่าทีในเวทียูเอ็นคืนนี้

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.พ.- รมว.กต.หวัง “รัสเซีย-ยูเครน” ยุติสงครามด้วยการเจรจา เตรียมให้ผู้แทนไทยแสดงท่าทีในเวทียูเอ็นคืนนี้ ชี้ถ้ายืดเยื้อทุกประเทศกระทบ ขณะเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นหลังโควิดคลี่คลาย


นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี หน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ว่า สงครามที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับทั่วโลก สิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ต่อบ้านเมือง ประชาชน โดยสิ่งที่กังวลที่สุดในขณะนี้เป็นเรื่องความยืดเยื้อ เพราะกระทบทุกประเทศทั่วโลกหากยืดเยื้อ ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติหรือทุกประเทศที่เราหารือร่วมด้วยก็หาทางออกด้วยกัน และสิ่งที่ดีที่สุดคือการหันหน้ามาพูดกัน

“สำหรับประเทศไทยมีแผนรับมือร่วมกันอาเซียนออกมาแล้ว เวลาที่คุยกับนานาประเทศ รวมถึงความพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทั้งนี้ ประเมินสถานการณ์ตลอดว่ายืดเยื้อหรือไม่ เรามีแนวทางแต่ทั้งหมดแต่ยังไม่มีคำตอบสุดท้าย และรู้ดีว่าความยืดเยื้อไม่ดีกับทุกฝ่าย ยอมรับว่ามีความพยามให้ยืดเยื้อเพื่อประโยชน์ทางใดทางหนึ่งในทางด้านยุทธวิธี ซึ่งเป็นเช่นนี้กับทุกเหตุการณ์ในอดีต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว


นายดอน กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือเรื่องที่ทั้งสองประเทศจะจะเจรจาพูดคุยกันที่เมืองชายแดน เบลาลุส ซึ่งประเทศไทยวางแผนไว้หมด โดยมองไปข้างหน้าว่าอะไรจะเป็นอย่างไร รวมทั้งแผนอพยพคนไทย วันที่1 มีนาคมนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับผ่านมาทางเมืองวอซอ บูคาเรสต์ แต่ก็มีคนไทยบางส่วนไม่พร้อมกลับเพราะมีครอบครัว ยืนยันว่าเรามีแนวทางการรับมือทุกมุม เพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เพราะทุกอย่างมีโอกาสได้รับผลกระทบทั้งการค้า การลงทุน เศรษฐกิจในมิติต่าง ๆ

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีให้แนวทางรับมือเศรษฐกิจที่ต้องได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้แนวทางต่าง ๆ เพราะเราต่างรู้ว่าถ้ายืดเยื้อ เงินเฟ้อจะเกิดขึ้น ราคาพลังงานสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อทุกด้าน เรื่องนี้ได้หารือร่วมกัน จึงไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาลไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร

เมื่อถามว่า ต้องตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องหรือไม่ นายดอนยอมรับว่ามีการพูดกัน แต่ขอไม่ลงในรายละเอียด เพียงขอให้ไว้ใจว่ารัฐบาลรับรู้ถึงปัญหาทุกมุม ทั้งที่เกิดขึ้นภายในเวทีภูมิภาคและระหว่างประเทศ


ส่วนกรณีมีนักการเมืองในประเทศเรียกร้องในแง่มุมต่างๆ สมควรหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นสิทธิส่วนตัวที่แสดงความเห็น แต่ท่าทีของรัฐบาลไทย เราไม่ต้องการให้เกิดความวุานวาย ไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ เราต้องการความสงบ เพราะความสงบจะทำให้ทุกประเทศพัฒนาตัวเองได้

“ที่ผ่านมาเรามีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด19 มา 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งเกิดความบอบช้ำไปทุกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ หากลองนึกดูว่าเมื่อมีการแพร่ระบาดโควิด19 แล้วยังมีเรื่องการเมืองความขัดแย้ง จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์เท่าทวีคูณ แทนที่เราจะสามารถฟื้นตัวพัฒนาบ้านเมืองขึ้นมาได้หลังโควิดเบาบาง ทั้งการท่องเที่ยว ลงทุนจะฟุบลงไปอีก” นายดอน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะมีจุดยืนอย่างไรทุกประเทศจะได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น มากน้อยแตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าจะรับมือได้มากน้อยแค่ไหน แต่ทุกอย่างได้พูดคุยเตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ประชาชนเองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย เพราะรัฐบาลทำไม่ได้โดยลำพัง

“ยอมรับว่าสิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือการเจรจาจาของประทศคู่ขัดแย่งและเราหวังว่าผลการเจรจาจะเป็นเชิงบวก แต่เราไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ เพราะผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายแตกต่างกัน ฟังดูเหมือนทุกคนต้องการความสงบเรียบร้อยไม่กระทบต่อประชาชนแต่ที่ทราบก็ยังยิงกันตลอดเวลา เพราะในเรื่องระหว่างประเทศมีความซับซ้อน จะดูแค่ภายนอกไม่ได้ ประเทศไทยหวังว่านานาประเทศจะให้ความร่วมมือให้เรื่องนี้ค่อย ๆคลี่คลาย และไม่บานปลาย” นายดอน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า คืนนี้(28 ก.พ.) จะหารือเรื่องดังกล่าวในองค์การสหประชาชาติ โดยให้ตัวแทนของไทยแสดงท่าที ไม่ใช่นั่งเฉย ๆ ต้องบอกล่าวในเวทีต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราทำอะไรได้บ้างและคราดหวังจะได้ผลอะไรจากความร่วมมือจากต่างประเทศ อย่างน้อยจะทำให้ผลที่มีต่อนานาประเทศเบาบางลง กว่าที่ควรจะเป็น เพราะหากเหตุการณ์ยืดเยื้อออกไป ทุกฝ่ายจะได้รับผลกระทบ

“คนไทยก็ต้องช่วยกัน สามัคคีเป็นปึกแผ่น จะถือเป็นจุดแข็งของประเทศ หากประเทศไหนอ่อนแอจะกลายเป็นเหยื่อได้ อย่าไปคิดว่าสถานการณ์โลกเป็นอย่างนี้ แล้วเราต่างคนต่างอยู่ เพราะเศรษฐกิจเฟื่องฟู คิดว่าหลังโควิดจะดีขึ้น แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นเช่นนั้น ขอฝากไว้ว่าความสามัคคีในบ้านเรามีความจำเป็น ค วามแข็งแรงของบ้านเมืองต้องมีประชาชนต้องร่วมใจกัน ให้มีเอกภาพ เป็นฐานของความแข็งแกร่งของสังคม” นายดอน กล่าว

เมื่อถามว่า หากอนาคต ไทยต้องเลือกข้าง ไทยจะเลือกข้างไหน นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เราดูตามสถานการณ์ที่เป็นจริงในวันนี้ ไม่ต้องเลือกข้างได้เป็นเรื่องดี เพราะเราต้องการให้สถาณการณ์สงบโดยเร็ว โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกัน หากสงบจะเป็นผลดีกับทุกเชื้อชาติ จะส่งผลดีต่อภายหน้า เพราะทุกประเทศกำลังฟื้นเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด หากไม่ร่วมมือกันทุกอย่างก็ไม่ฟื้น โอกาสฟื้นตัวก็ไม่มี

“ในโซเชียล หลายประทศพูดคุยกันเหมือนสะใจเหมือนเห็นวีโอเกมส์ ซึ่งในชีวิตจริงไม่ใช่ ในชีวิตจริงเราต้องหาทางลดความขัดแย้ง ทุกครอบครัวจะวสามารถฟื้นชีวิตกลับมา ส่วนสถานการณ์จะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ ส่วนตัวไม่อยากพูดว่าจะเลวร้ายหรือไม่ แต่อยากฟังว่าการหารือ ระหว่าง 2 ประเทศจะนำไปสู่การเริ่มต้นและจุดจบได้หรือไม่ และหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” นายดอน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]