สำนักงานป.ป.ช .28 ก.พ.-ป.ป.ช.สรุปผลชี้มูลคดีทุจริตหลายรายการปี 64 มีทั้งอดีตนายกฯ นักการเมืองคนสำคัญหลายรายที่อัยการสูงสุด ส่งฟ้องแล้ว
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)แถลงผลงานคดีทุจริตช่วงไตรมาสแรก ปี 2565 โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล และนายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ช.ร่วมแถลงข่าว โดยสรุปผลงานตั้งแต่ตุลาคม – ธันวาคม 2564 ต่อเนื่องมกราคม 2565 สรุปการดำเนินการในคดีทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมืองคนสำคัญหลายราย อาทิ นายนริศร ทองธิราช ครั้งสมัยดำรงตำแหน่งส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กรณีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของสมาชิกคนอื่นหลายคนแสดงตนและลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยมิชอบเมื่อปี 2556 ซึ่งคดีดังกล่าวป.ป.ช.มีมติชี้มูลอาญาและส่งอัยการสูงสดแล้วเมื่อ 3 ธันวาคม 2564 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด
คดีกล่าวหานายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมพวก เรียกรับตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ- ปักกิ่ง และ กรุงเทพฯ-มาเลเซียโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย เป็นการรับเงินไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งบริษัทที่ได้เรียกรับผลประโยชน์นี้ เป็นบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออก จำกัด ที่มีหน่วยงานจากการประปา ถือหุ้นเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น จึงไม่ใช่ลักษณะของหน่วยงานภาครัฐที่ รัฐมนตรีต้องเข้าไปตรวจสอบหรือดูงาน
คดีกล่าวหานายดำรง พิเดช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมพวก อนุมัติโครงการและงบประมาณฝึกอบรมจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ระหว่างวันที่ 7-16 มิถุนายน 2555 โดยมิชอบ ซึ่งป.ป.ช.มีมติชี้มูลทางอาญาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และส่งอัยการสูงสุดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา นอกจากนี้ยังมีคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นส่งฟ้องเพิ่มเติม คือคดีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) โดยมิชอบและคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นส่งฟ้องนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัดเป็นผู้ส่งมอบข้าวให้ BULOG ประเทศอินโดนีเซีย โดยไม่สั่งตรวจสอบหรือยับยั้งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขององค์การคลังสินค้าด้วย.-สำนักข่าวไทย