รัฐสภา 24 ก.พ.-“ชินวรณ์” ยัน ปชป. ไม่แปรญัตติกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวโดยเด็ดขาด เชื่อบัตรสองใบทำลดการซื้อเสียงส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง
นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวถึง การประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้(24 ก.พ.) เป็นไปตามข้อตกลงเงื่อนไขวิปของสามฝ่าย ซึ่งวันนี้วิปรัฐบาลมีมติให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมการอภิปราย และ การลงมติ ตลอดจนรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการให้แปรญัตติภายใน 15 วัน
ส่วนที่มีข่าวว่าจะให้มีการแปรญัตติให้กลับไปสู่บัตรเลือกตั้งใบเดียว นั้น ขอย้ำว่า ครั้งในฐานะพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 81 มาตรา 93 ซึ่งได้มีบทบัญญัติชัดเจนว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปต้องเป็นระบบบัตรสองใบคือระบบบัญชีรายชื่อ 100 คนและแบบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 400 คน ดังนั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนกลับไปสู่ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวได้
ส่วนที่อาจจะมีผู้ร้องต่อผู้ตรวจการรัฐสภา นายชินวรณ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ แต่ส่วนการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ขอยืนยันว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ประชาธิปัตย์เสนอในนามพรรคร่วมรัฐบาล นั้น เป็นเพียงเพื่ออนุมัติให้เป็นไปตามการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 ฉบับที่หนึ่งเท่านั้น และเมื่อมีหลายพรรคการเมืองเสนอเข้ามาและมีประเด็นปลีกย่อยก็ต้องรับฟัง
ส่วนร่างของพรรคเพื่อไทยที่มีประเด็นข้อถกเถียงในมาตรา 28 มาตรา 29 เพื่อต้องการให้บุคคลภายนอกสามารถมาแสดงความคิดเห็นหรือเป็นที่ปรึกษากับพรรคได้ซึ่งตรงกันข้ามกับร่างเดิมที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่เป็นสมาชิกทักเข้ามามีส่วนครอบงำทั้งโดยตรงและโดยอ้อมโดย นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อถกเถียงกันอยู่ หรือกรณีข้อเสนอของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่พูดถึงกระบวนการจัดตั้งพรรคการเมือง และเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“สิ่งที่ตั้งข้อสังเกต คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านฉบับเดียวคือการแก้ไขระบบการเลือกตั้งให้เปลี่ยนเป็นบัตรสองใบ ดังนั้นไม่ใช่ประโยชน์ของนักการเมือง แต่เพื่อส่วนรวมที่ทำให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าระบบการเลือกตั้งแบบนี้จะลดอิทธิพลของการซื้อเสียงลง และที่สำคัญคือส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงอยากเรียกร้องทุกฝ่าย ที่มีเป้าหมายตรงกันคือทำอย่างไรให้การแก้ไขร่างกฎหมายนี้สอดคล้องกับการแก้ไขธรรมนูญอย่างแท้จริง และลดความเคลือบแคลงของประชาชนที่ว่านักการเมืองทำเพื่อตัวเอง”นายชินวรณ์ กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข่าวว่าอาจจะมีการล้มร่างบางร่าง เป็นเรื่องที่เป็นความเห็นส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้โดยหลักการทั่วไป เห็นว่าทุกร่างมีความสำคัญทั้งหมดแต่ต้องฟังเหตุผลให้มีการอภิปรายให้มีความชัดเจนก่อน และขอความร่วมมือจะไปแก้ไขกันในชั้นกรรมาธิการเพราะกฎหมายมีบทบัญญัติแล้วว่า เมื่อประธานบรรจุอยู่ในวาระเรียบร้อยก็ต้องนับเวลาทันทีว่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน.-สำนักข่าวไทย.