ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมถกแก้กม.ลูก

รัฐสภา 21 ก.พ.-ฝ่ายค้านเล็งเดินหน้าเอาผิดรัฐบาลปกปิดข้อมูล ASF อาจซักฟอกต่อ เตรียมพร้อมอภิปรายร่างกม.ลูก 2 ฉบับ ยันหลักการให้คนนอกชี้แนะ ให้คำปรึกษาได้ ไม่ถือครอบงำพรรค ปิดช่องกลั่นแกล้งหาเหตุยุบพรรค


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลังจากนี้อยู่ในกระบวนการที่จะต้องปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะมีหลายเรื่องที่มีลักษณะของข้อเท็จจริง พบการกระทำผิดและเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฏหมาย เช่น การปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือ ASF เนื่องจากหลักฐานที่ได้มาเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเมื่อเกิดโรคแล้ว ควรมีวิธีการป้องกัน แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมรับว่าเกิดการแพร่ระบาด และไม่ยอมประกาศให้เป็นโรคแพร่ระบาด จึงส่อให้เห็นว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย ตามมาตรา 157 ซึ่งจะยื่นฟ้องหรือไม่อย่างไร ต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการเลยหรือไม่ หรือจะนำไปเป็นประเด็นในยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151

ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ส่วนประเด็นอื่น ๆ ต้องมาดูรายละเอียดว่าจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร เช่น นำการอภิปรายของสมาชิกมาขยายและเผยแพร่ต่อในทุกแพลตฟอร์มให้ประชาชนได้รับทราบว่าเจตนารมณ์การอภิปรายครั้งนี้ ว่าเป็นการอภิปรายเพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนอย่างไร และสิ่งที่รัฐบาลควรทำเป็นอย่างไร


ส่วนการเตรียมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การพิจารณากฎหมายลูกครั้งนี้มีสอง 2 ร่างหลักและมีร่างจากพรรคการเมืองอื่นประกบรวม 10 ร่าง ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และตนจะพยายามแสดงให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเห็นถึงหลักการและเหตุผลของกฎหมาย ที่พรรคเสนอให้มากที่สุดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันพรรคการเมือง และชี้ให้เห็นว่ากฎหมายลูกฉบับใหม่นี้ บุคคลภายนอกพรรคการเมืองสามารถชี้แนะ และให้คำปรึกษาได้

“พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับเดิม มีปัญหากับพรรคการเมืองหลายประเด็น เช่น มาตราที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคการเมือง เช่น มาตรา 28 มาตรา 29 ที่มีการครอบงำและชี้นำทำให้หลายพรรคการเมืองถูกยุบ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่บัญญัติให้พรรคเมืองต้องมีอิสระ ทำให้การตีความตามกฎหมายกว้าง พรรคการเมืองถูกยุบไปมาก จึงไม่ต้องการให้พรรคการเมืองถูกกลั่นแกล้ง และเกิดการตีความที่ไม่เป็นธรรมต้องดูพฤติการณ์ด้วยว่าสิ่งที่พรรคการเมืองทำ ขาดความเป็นอิสระหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็ต้องแล้วแต่เสียงข้างมากว่าจะรับ หลักการหรือไม่” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย