รัฐสภา 17 ก.พ.- “เสรีพิศุทธ์” ซัด รัฐบาลหมดสภาพ – ส.ส.ฝั่งรัฐบาลซื้อเสียง ฉุนมีคนทาบให้ย้ายขั้ว ชี้ หากนายกฯ ยุบสภา คงไม่ได้กลับมา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ โดยย้ำถึงความล้มเหลวของการปฏิรูประเทศ ด้านการเมือง พบว่า มีผู้แทนราษฎรที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ก่อนที่จะถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ ยังพบว่า มีส.ส.ที่โกงเงินกว่า 400 ล้านบาท เข้าสู่สภาฯ และล่าสุดพบว่า ย้ายพรรคโดยพรรคที่รับเข้าสังกัดก็ไม่ตรวจสอบ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งซ่อม พื้นที่ จ.ลำปาง จ.นครศรีธรรมราช จ.ชุมพร และจ.สงขลา ยังพบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นเงินจำนวนมากถึงรายละ 500 บาท โดยเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของตนในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้เรียกผู้ตรวจการเลือกตั้งชี้แจง แต่กลับได้คำตอบว่า ไม่รู้ไม่เห็น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ระบุว่า เลือกตั้งซ่อมสงขลาและชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง เพราะซื้อเก่งกว่า ตนจึงอนุมานได้ว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราชและที่อื่นๆ พรรคพลังประชารัฐซื้อเก่งกว่าจึงได้ผู้แทน ทั้งนี้ การเลือกตั้งซ่อม ที่จ.สมุทรปราการ จ.ลำปาง และจ.นครศรีธรรมราช ตนส่งพยานหลักฐานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครบถ้วน กกต. วินิจฉัยว่า เลือกตั้งซ่อมจ.ลำปาง มีมูล แต่นอกนั้นยกทั้งหมดเพราะไม่มีพยานหลักฐาน ซึ่งที่จ.เชียงใหม่ ส.ส.เพื่อไทย ถวายเงินพระ 2,000 บาท ก็ได้ใบส้ม แต่กรณีที่มีหลักฐานจ่ายเงินจริง แต่ไม่ได้เป็นคนจ่ายเอง ได้ใบเหลือง จึงถามว่า เงินที่จ่ายซื้อเสียง เงินจากนรกหรือไม่ และหลักฐานที่ตนเสนอ ก็ไม่ได้นำมาวินิจฉัย หากเป็นพรรคอื่นคงได้ใบแดง
“การเลือกตั้งเมื่อปี 2537 ที่ผมมีผลงานจับกุมทุจริตซื้อเสียง 11 ล้านบาท ที่ จ.บุรีรัมย์ แจก 120 บาท หากได้เลือกตั้ง ค่อยมารับเงินที่เหลือ เวลาผ่านไป 30 ปี แทนที่จะฉลาด ก็โง่ แจก 300 -1,000 บาท ได้ไม่ได้ ไม่รู้ พอได้เป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรี ก็โกงกัน ผมอยู่ในสภาฯ รู้เห็นหมด ใครอย่าปฏิเสธ ฝากไปบอกนายกฯ ด้วยว่า ขอให้ไปปรึกษาคนโตของบุรีรัมย์ อาจใช้เงินน้อยกว่า และผมขอฝากถามนายกฯ ด้วยว่า ที่เป็นใหญ่มาทุกวันนี้ โกงมาตลอดใช่ไหม เลือกตั้งก็โกง ตำแหน่งก็โกง เอารัดเอาเปรียบคนมาทั้งชีวิตไม่รู้จักพอ เมื่อโกงเองจะสอนให้คนอื่นไม่โกงได้ยังไง ทำให้ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยตกต่ำ”พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังเสนอให้แก้ไข พระราชบัญญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ.2561 โดยให้ยุบ กกต.จังหวัด เหลือเฉพาะสำนักงาน กกต. ขณะที่การเลือกตั้ง ก็ให้ครู อาจารย์ในพื้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้ตำรวจ ทหาร เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุม สลับตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.โดยให้ไปให้ปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นชั่วคราว เพื่อลดอิทธิพลในพื้นที่บีบบังคับให้ลูกบ้านซื้อเสียงและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เป็นพนักงานสอบสวน เพราะแม้จะมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่ตรวจไม่พบการทุจริตในพื้นที่ ทำให้เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
“นายกฯ ตอนนี้ หมดสภาพแล้ว จิตใจหวั่นไหว ความรู้ไม่มี ความดีไม่ปรากฎ ประเทศชาติถอดถอย ประชาชนยากจน ปีนี้ บอกจะทำบัตรคนจนเพิ่ม 20 ล้านคน ผมว่า น่าละอาย แทนที่จะให้จำนวนคนจนลดลงทุกปี หากให้นายกฯ อยู่ต่อไป อาจมีคนจนเพิ่มเป็น 25 ล้านคน แม้นายกฯจะมีอำนาจ แต่พรรคพลังประชารัฐแตก ไม่มีเสียงพอในสภา ต้องหาซื้อเสียงฝ่ายค้านไปเป็นพวก มีคนทาบทามให้ผม และพรรคเสรีรวมไทยไปเป็นพวก ขอโทษ ผมให้ส้นตีนไป หาทำทุกวิธี ผมเชื่อ ว่าหากยุบสภาฯ ไม่มีทางกลับมา หากลาออกจะเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายชวน ได้ตักเตือนและขอให้ถอนคำว่า ส้นตีน ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอนคำดังกล่าว จากนั้น นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกชี้แจงต่อคำอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยปฏิเสธการซื้อเสียงที่มีคลิปภาพเปิดเผย ระบุว่า เป็นเพียงการใช้จินตนาการมากกว่า.-สำนักข่าวไทย