“ชลน่าน”ชี้เป้าปัญหาประเทศ จี้นายกฯ ยุบสภา-ลาออก

รัฐสภา 17 ก.พ.- “ชลน่าน” ชี้เป้าปัญหาประเทศ จากรัฐธรรมนูญ-ผู้นำ กระทบเศรษฐกิจ สังคม จี้ นายกฯ ลาออก-ยุบสภา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ  ที่เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นวันแรก

โดยก่อนการเข้าสู่ญัตติ นายชวน ได้ย้ำถึงข้อปฏิบัติในการประชุมตามข้อบังคับการประชุม และให้ผู้ควบคุมเสียงแจ้งถึงข้อตกลงด้านเวลา โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เวลา รวม 22 ชั่วโมง แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย ได้เวลา 760 นาที พรรคก้าวไกล ได้เวลา 303 นาที พรรคเสรีรวมไทย 80 นาที พรรคประชาชาติ 57 นาที พรรคเพื่อชาติ 50 นาที พรรคพลังปวงชนไทย 30 นาที พรรคไทยศรีวิไลย์ 20 นาที และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 20 นาที


ขณะที่ฝ่ายคณะรัฐมนตรี ได้เวลาชี้แจง รวม 8 ชั่วโมง ได้จัดสรรให้ส.ส.ในสัดส่วนแต่ละพรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ 44 นาที พรรคภูมิใจไทย 27 นาที พรรคประชาธิปัตย์ 23 นาที พรรคเล็กร่วมรัฐบาลที่มี ส.ส.เกิน 1 คนได้เวลา  6 นาที และพรรคเล็กที่มีส.ส. 1 คนได้เวลา  4 นาที

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่ล้มเหลว มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้หนี้ครัวเรือนของประชาชนและอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ขณะที่รัฐบาลกลับไม่มีการเยียวยาที่ชัดเจน ประกอบกับมีการติดเชื้ออหิวาต์ในสุกร ทำให้ราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนรายใหญ่ ขณะเดียวกัน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่นก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้  อีกทั้งรัฐบาลขาดความจริงใจในการปฏิรูปการเมืองโดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่การเลือกตั้งก็ย้อนไปใช้ระบบอุปถัมภ์ ใช้เงินซื้อเสียง อีกทั้งยังพบการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย โดยยืนยันว่า การอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านไม่ได้ถล่มพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่เป็นการพูดถึงปัญหาเพื่อแก้ไขให้ตรงจุดมากกว่า

“รัฐบาล พรรครัฐบาล ไม่ต้องกังวลหรือเก็งข้อสอบ ไม่ต้องรีบตอบ ให้เวลาเต็มที่ ข้อเสนอแนะที่เป็นปัญหา ที่ท่านไม่เห็นปัญหา ให้ไปแก้ไขในเวลาที่เหมาะสม ไม่ต้องเก็งข้อสอบว่าจะเป็นการทำลายรัฐบาล แต่จะเป็นประโยชน์  ภาพใหญ่ที่จะอภิปรายคือนำปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ทั้งจน แพง ตาย เจ็บทั้งแผ่นดิน คือ วิกฤต เราต้องการบอกกับ ครม.ว่า ควรให้เรื่องวิกฤตเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข ไม่ใช่เรื่องปกติ โดยขณะนี้รัฐบาลเพิกเฉยกับปัญหา การอภิปรายตามมาตรา 152 คือ การเสนอข้อเท็จจริงและการแก้ปัญหา ยืนยันว่าไม่มีอคติ ถือโทษ ต้องขออภัยหากกระทบกระทั่งกัน “ นพ.ชลน่าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาด บกพร่องของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่สืบเนื่องมาจากรัฐบาล คสช. เพื่อเสนอแนะ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจทรุด ประเทศเป็นหนี้ การใช้งบเงินกู้ที่ไม่เหมาะสม ของแพง ค่าแรงถูก เป็นความผิดพลาดการบริหารต้นทุน ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ที่เกิดจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เป็นภาวะเงินฝืด ราคาเฟ้อ ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศย่ำแย่ มีการผูกขาดไม่สร้างโอกาสประชาชน

“วิกฤตการเมืองที่รัฐบาลไม่สนับสนุนการปฏิรูปการเมืองให้เป็นรูปธรรมและยังใช้มิติทางการเมืองทำลายล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิ่งที่ชัดเจนคือ การลดทอนอำนาจการปกครองตนเองของท้องถิ่น ใช้ฐานอำนาจท้องถิ่นต่อรองเข้าสู่อำนาจ ในทางลงโทษผู้บริหารท้องถิ่น เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ รวมถึงการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม ไม่สามารถตรวจสอบได้ กินกล้วย ฉีดวัคซีน  20 – 30 ล้านบาท รับเงินเดือนประจำ 2-3แสนบาท ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในสังคม รัฐมนตรีต้องตอบว่า ทำไมต้องแจกกล้วย การแจกกล้วยทำให้เกิดปัญหาอื่นแบบครบวงจร การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ แม้จะทำให้รัฐบาลได้เสียงข้างมาก แต่มีสภาพง่อนแง่น  ไร้เสถียรภาพ แต่ได้ทำทุกวิธีทาง เพื่อกวาดต้อนส.ส. เช่น ยุบพรรค ถือเป็นการทำลายล้างประชาธิปไตย” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563 หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล องค์ประชุมของฝ่ายรัฐบาลไม่เคยถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุม 238 คน ทำให้เกิดวิกฤต ขัดแย้งแก่งแย่ง แบ่งอำนาจภายในของพรรคร่วมรัฐบาล เมื่ออยู่ไม่ได้ ต้องแสดงจุดยืน ซึ่งตนยังเชื่อว่า รัฐบาลจะทำเพื่อประชาชน  นอกจากระบบตรวจสอบการใช้อำนาจมีปัญหา สิ่งที่แย่ที่สุดคือได้ผู้นำที่ไร้ความสามารถ และด้อยที่สุดเข้ามาบริหาร ทั้งนี้ จากการสัมผัสและพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ภาพขณะนั้นเป็นผู้ชายอบอุ่น เมตตา มีความรับผิดชอบ แต่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไร้ความเมตตา และจิตสำนึกความเป็นมนุษย์กับประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้นำ

“ผมขอถามว่า รัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญต้นตอปัญหาของการเมืองที่ลามไปสู่ปัญหาอื่นๆ หรือไม่ หากพรรคฝ่ายค้านเป็นองค์ประชุมให้ จะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้ตอบ ไม่ใช่เก็บไปดอง ผมเชื่อว่านายกฯ รักประชาชน ขอให้เอาหัวใจมามองสิ่งดีๆ เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน ด้วยการประกาศออกจากตำแหน่ง จะลาออกจะแก้ปัญหาเร็ว เพื่อมีครม.ใหม่ หรือประกาศยุบสภา มอบอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ เชื่อจะแก้ปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด แพงทั้งแผ่นดินจะแก้ไขได้” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 2 ครั้ง และอภิปรายทั่วไป 1 ครั้ง ถึงปัญหาโรคระบาดของโควิด-19 แม้รัฐบาลจะมี ศบค. และทีมทำงาน กลับพบว่า การแก้ปัญหาไม่ดีขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลอาจมองว่าเป็นโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อดำรงอยู่ จึงเลี้ยงโรค เลี้ยงไข้ ตนไม่ได้กล่าวหา แต่เป็นข้อเท็จจริง โชคดีที่โอไมครอน ช่วยชีวิต แต่การบริหารจัดการแผ่นดิน การจัดหาวัคซีน การฉีดวัคซีนและบูสเตอร์ที่ล่าช้า รวมถึงจำนวนวัคซีนล้นเมือง เป็นสิ่งต้องถามและเสนอแนะปัญหา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ตามที่รัฐบาลออกกฎหมายประมง ทำให้ประเทศและชาวประมงสูญเสียรายได้ 2 แสนล้านบาท  การแก้ปัญหาที่ชาวประมงเสนอแก้ไขกฎหมาย แต่ถูกนายกฯ ตีตก เพราะเป็นกฎหมายการเงินไม่ยอมส่งเข้าสภาฯ  รวมถึงปัญหาการทุจริตยาเสพติด

ทั้งนี้ขอให้ติดตามการสรุปจบของนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แม้ไม่ถึงกับเก็บศพ แต่จะหามใส่รถฉุกเฉินเข้าไอซียู หากไม่แก้ไข เดือนพฤษภาคมจะเก็บศพแน่นอน พร้อมกันนี้ ยังขอให้นายกรัฐมนตรีหยุดทรมานประชาชน และขอให้คืนอำนาจให้ประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]