“อนุทิน” เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุข อ.เบตง จ.ยะลา

ยะลา 5 ก.พ.- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ติดตามความพร้อมเปิดเมืองเป็นประตูสู่การท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมพัฒนาและขยายบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รองรับการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว ลดการส่งต่อผู้ป่วยออกนอกพื้นที่

วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2565) ที่โรงพยาบาลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 และคณะ ติดตามความพร้อมการเปิดท่าอากาศยานนานาชาติเบตง และมอบนโนบายด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมพบปะอาสาสมัครกระทรวงสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวนกว่า 300 คน


นายอนุทินกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของท่าอากาศยานนานาชาติเบตง เนื่องจากในอนาคตอำเภอเบตง จะเป็นประตูด่านแรกในการต้อนรับผู้เดินทางทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านสู่การท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งการคมนาคมทางบก/อากาศ การขนส่ง การรักษาความปลอดภัย ตลอดจนระบบการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งพบว่ามีความพร้อมในการให้บริการประชาชน อำนวยความสะดวกในการเดินทางสัญจรอย่างมาก

นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเบตงซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชน หากมีการเปิดเมืองและดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติเบตง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาและขยายการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อดูแลประชาชน/นักท่องเที่ยว และลดการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลนอกพื้นที่ โดยในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา อำเภอเบตง ดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มแข็งทุกมิติ เช่น มาตรการ COVID Free Setting ในโรงเรียน ร้านอาหาร ตลาด โรงแรม และศาสนสถาน รวมถึงให้บริการฉีดวัคซีนทั้งในโรงพยาบาลเบตง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ด่านเข้าเมืองเบตง และการฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล ทำให้สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างชัดเจน เชื่อมั่นว่าความร่วมมือเหล่านี้ ทำให้อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จะเป็นอีกหนึ่งเป็นเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจ ช่วยเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศไทยได้


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2565 จังหวัดยะลามีผู้ติดเชื้อสะสม 557 ราย รักษาหายแล้ว 537 ราย เสียชีวิตสะสม 11ราย วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24 ราย กำลังรักษา 165 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่ ฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว ร้อยละ 64.40 เข็มที่ 2 ร้อยละ 53.80 และเข็มที่ 3 ร้อยละ 7.91 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม