ทำเนียบฯ 4 ก.พ. – นายกฯ ย้ำเดินหน้าแก้ปัญหาทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เตือนประชาชนใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า พร้อมขอทุกคนลดความขัดแย้งและรักประเทศชาติ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียกคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจหลายส่วนหลายฝ่าย มาหารือถึงมาตรการดูแลประชาชนต่อไป ไม่ว่าจะปัญหาพลังงาน ชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องหนี้สิน ซึ่งทุกอย่างต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการบรรเทาความเสียหายจากสถานการณ์ โควิด-19 แต่ทั้งหมดมีกฎหมายอยู่หลายตัว ต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพยายามแก้ไขทุกปัญหา ไปพร้อมการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เป็นการทำงานในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างทั้งหมด ทั้งการทำงานงบประมาณ แผนงานโครงการ ซึ่งทุกอย่างจะต้องโปร่งใสและเกิดประโยชน์ให้มากที่สุด นายกรัฐมนตรีจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด และพยายามจะทำอย่างเต็มที่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ฝากให้ข้าราชการทุกคนช่วยกันทำด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ขอเตือนประชาชนในเรื่องการใช้พลังงานให้เกิดความคุ้มค่าและประหยัด จากสถานการณ์ด้านพลังงานโลกที่กำลังมีปัญหา ที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นทุกวัน และยังไม่รวมค่าขนส่งและค่าแปรรูปต่างๆ ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไป ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อม ว่าจะอยู่อย่างไรให้เกิดความพอเพียง และใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งตราบใดที่ทุกอย่างยังคงปรับตัวสูงขึ้นรัฐบาลต้องหามาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมจำนวนมาก และวันนี้รัฐบาลทำเกือบทุกมาตรการแล้ว สิ่งที่เราทำวันนี้ได้เป็นแบบอย่างให้กับหลายประเทศโดยเฉพาะเรื่องแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ประเทศไทยได้รับการชื่นชมมาก
“นายกฯ ไม่เคยมีความสุข ถ้าตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย วันนี้หลายอย่างดีขึ้นหลายอย่างก็ยังอยู่ในกรอบที่เราสามารถควบคุมได้ ต้องขอขอบคุณประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่อยู่หน้างาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนการแก้ปัญหาโควิด-19 การแก้ปัญหาด้านความมั่นคงชายแดน การปราบปรามยาเสพติด ผมได้กำชับทุกหน่วยงาน ซึ่งได้มีการรายงานผลการปฎิบัติงานให้ผมทราบทุกวัน ผมไม่ได้นิ่งนอนใจทุกเรื่อง และเรื่องใดก็ตามที่ไม่สมควรทำให้เกิดความขัดแย้ง ความแตกแยก ก็ให้ลดลงไปหน่อย เพื่อให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมีสมาธิในการทำงาน เพื่อสืบสานเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขอให้ประชาชนมีความรักความสามัคคี ถ้าไม่ร่วมมือกันจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ทั้งหมด เราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และเราไม่ใช่ศัตรูกัน
ส่วนก่อนจะหมดวาระของรัฐบาลสิ่งใดที่ต้องการเร่งแก้ปัญหาให้เสร็จ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะคนที่เดือดร้อนมากที่สุดก่อน จึงต้องเร่งเข้าไปดูแลให้ยืนได้ก่อน วันนี้มาตรการของรัฐออกมาหลายโครงการมากมาย ไม่ใช่การหาเสียง แต่เป็นการทำเพื่อประชาชน หากจำเป็นก็ต้องทำ เชื่อว่ารัฐบาลไหนที่เข้ามาก็ต้องทำแบบนี้ ทำด้วยสุจริตใจ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจะปล่อยให้หมักหมมต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งนายกฯ ไม่เคยหยุดทำงานได้
ทั้งนี้ ประเด็นการเข้ามาเพื่อสร้างความปรองดองปฏิรูปประเทศที่ถูกมองว่า ยังไม่ถึงไหนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหว ใช้อาวุธมีการตีกัน แต่ตอนที่ตนอยู่ เกิดขึ้นหรือไม่ มีแค่การประท้วง มีการร้องเรียน แต่ก็มีการจัดการเข้าสู่การแก้ปัญหาได้ จะบอกว่า ไม่เกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร อีกทั้งทำให้เกิดการระดมความคิดช่วยกันคิดหาทางแก้ ไม่ใช่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตนไม่ต้องการให้คนไทยแบ่งฝ่ายกันทั้งสิ้น “จะรักผม หรือไม่รักผม ชอบหรือไม่ชอบผม สิ่งนี้คือความอันตรายทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุด ถ้าท่านไม่รักผม ขอให้รักประเทศชาติของท่านรักคนไทย เพื่อนพี่น้องร่วมชาติ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องคิด ผมคิดแบบนี้ ถึงอยู่มาได้ทุกวันนี้ มีเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นตรงนี้ของผม ทั้งนี้ขอให้อยู่บนพื้นฐานความสงบเรียบร้อย ความมีเสถียรภาพของบ้านเมือง มีการปฏิบัติตามกฎหมาย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันกัน ไม่มีการทุจริต ไม่มีการเรียกผลประโยชน์ ขอยืนยันผมทำเต็มที่หมดทุกเรื่อง” นายกรัฐมนตรีกล่าว.-สำนักข่าวไทย
