มูลนิธิป่ารอยต่อ 4 ก.พ.- “พล.อ.ประวิตร” เรียกประชุมอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกการจราจร กำชับดูแลจัดประชุมผู้นำเอเปคขั้นสูงสุด ชี้ เป็นโอกาสของไทยแสดงออกภาพความเชื่อมั่นและความเป็นหนึ่งเดียวกัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกการจราจร ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จากมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้รับทราบและประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวร่วมกัน รวมทั้งพิจารณาและเห็นชอบร่างแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565 โดยสรุปสาระสำคัญในการกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการ และแนวความคิดในการปฏิบัติการด้านต่างๆ เช่น ด้านการรักษาความปลอดภัย ด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ด้านการข่าว ด้านการ แก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบ ด้านการแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร ยังมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนด้านต่างๆ โดยให้กองบัญชาการกองทัพไทย รับผิดชอบแผนเผชิญเหตุต่อต้านการก่อการร้าย กระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบแผนส่งกลับสายการแพทย์ โยมีกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ร่วมรับผิดชอบจัดทำแผนส่งกลับสายแพทย์ทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 65 นี้ ถือเป็นหน้าตาและโอกาสของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ที่ต้องการความร่วมมือกันทุกภาคส่วนอย่างสูงสุด ในการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของความพร้อม ความเชื่อมั่นและความเป็นหนึ่งเดียวกัน และถือเป็นชื่อเสียงของประเทศครั้งสำคัญ ต่อการฟื้นฟูประเทศหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงขอกำชับให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ พร้อมจัดทำแผนงานให้ครอบคลุมความปลอดภัยในทุกการประชุมที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกันไป ตั้งแต่ ก.พ.- พ.ย.65 ทั้งด้านการชุมนุมสาธารณะ ด้านการก่อเหตุรุนแรง และด้านความปลอดทางไซเบอร์ โดยให้ความสำคัญกับสถานการณ์และข้อมูลด้านข่าวกรอง และให้มีแผนเผชิญเหตุรองรับทุกสถานการณ์ในทุกพื้นที่ที่มีการจัดประชุม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติในภาพรวม.-สำนักข่าวไทย