พรรคกล้า 3 ก.พ.-พรรคกล้าร่วมหนุนคณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ย้ำรักษาหลักปฏิบัตินิยม ยุติปมขัดแย้ง ไม่ควรอาศัยเสียง ส.ว.แต่งตั้งตั้งรัฐบาล ต้องแก้ก่อนเลือกตั้ง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร แกนนำคณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 พร้อมคณะ เข้าพบนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เชิญชวนให้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี โดยนายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้รวบรายชื่อผู้สนับสนุนได้เกือบ 80,000 รายชื่อแล้ว และจะส่งรายชื่อผู้สนับสนุน 70,000 รายชื่อแรกให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจความถูกต้อง เพื่อบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมหน้า โดยจะเปิดให้ลงชื่อต่อไปจนกว่าสภาฯ จะพิจารณาวาระนี้ พร้อมมอบป้าย QR Code เพื่อลงชื่อสนับสนุนและเสื้อยืดรณรงค์ให้นายกรณ์ เพื่อให้พรรคเชิญชวนประชาชนร่วมสนับผ่านทางช่องทางการสื่อสารของพรรค
นายกรณ์ กล่าวว่า ยินดีร่วมสนับสนุน เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการแสดงหลักความถูกต้องของกฎหมายบ้านเมือง ทำให้คนไว้วางใจร่วมลงชื่อสนับสนุนจำนวนมาก ซึ่งตนเคยแสดงความคิดเห็นตั้งแต่ก่อนเริ่มลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2560 การรณรงค์เรื่องนี้สอดคล้องกับจุดยืนของพรรคมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค หากมองตามหลักปฏิบัตินิยม มาตรานี้ไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้มีเสียง ส.ว.สนับสนุน แต่หากไม่มีเสียงข้างมากในสภาฯ รัฐบาลก็ทำงานไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล โดยเฉพาะการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี และยังเกิดข้อครหาความไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่จำเป็น ดังนั้นการจะลดเงื่อนไขความขัดแย้ง ต้องยกเลิกมาตรา 272
“พรรคกล้าพยายามเสนอให้พิจารณาแก้มาตรานี้ในสภาฯ แต่ไม่มีพรรคการเมืองสนับสนุน และเลือกแก้ไขเฉพาะระบบเลือกตั้ง เปลี่ยนจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบ จึงอยากสนับสนุนให้แก้ไขมาตรานี้ก่อนจะเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อลดข้อครหาและความขัดแย้ง ถ้าเลือกตั้งและมีความพยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีส.ว.สนับสนุนวุ่นวายแน่นอน อยากให้ลองจินตนาการว่า สมมุติมีพรรคการเมืองรวมตัวกันได้แค่ 200 เสียง และมีพรรคการเมืองอีกฝั่งหนึ่งรวมตัวกันได้ 300 เสียง แล้ว 200 เสียงร่วมกับ 250 เสียงของ ส.ว.ดันทุรังตั้งรัฐบาล บ้านเมืองไม่มีทางสงบได้ ผมจึงกลับมาที่หลักปฏิบัตินิยมว่า ในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ และไม่ควรสมมติหากไม่มีสถานการณ์นั้น คือมีเสียงข้างมากในสภาล่างก็จบอยู่ดี โดยไม่จำเป็นต้องมี มาตรา 272 ดังนั้น จึงไม่ควรต้องมีมาตรา 272” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า มาตรา 272 มีไว้ก็ไม่มีประโยชน์ต่อหลักปฏิบัตินิยม มองว่าเสี่ยงทำลายประชาธิปไตย หากยังดันทุรังต่อไป แม้จะสามารถตั้งรัฐบาลได้ แต่หากถึงเวลาโหวตในประเด็นสำคัญ ก็มานั่งแจกกล้วย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เสี่ยงต่อการทำลายระบอบประชาธิปไตย นายสมชัย แสดงความยินดีกับพรรคกล้าในการเลือกตั้งซ่อมจตุจักร-หลักสี่ ที่ผ่านมา โดยมองจากสายตาสื่อและนักวิชาการ พบว่าได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมาก ถือเป็นความสำเร็จของพรรคที่ก่อตั้งมาเพียง 1 ปีกว่า ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ได้ที่ 3 ถือเป็นคะแนนที่มากพอสมควร เป็นการได้รับการตอบรับที่อบอุ่นจากประชาชน คิดว่าประชาชนจำนวนหนึ่งเริ่มคิดว่าพรรคกล้าเป็นเสียงและเป็นความหวังของประชาชนแล้ว.-สำนักข่าวไทย