รัฐบาลยันแก้ปัญหาราคาน้ำมัน-ของแพง

ทำเนียบ 2 ก.พ.- “สุพัฒนพงษ์” ย้ำ รัฐบาลแก้ปัญหาราคาน้ำมัน-สินค้าแพงอย่างดีที่สุด ชี้ เกิดจากปัจจัยภายนอก กระทบทั่วโลก ยืนยันทำงานเต็มที่คู่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” แม้จะอยู่ในช่วงปลายรัฐบาล

นายสุพัฒพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศไทย ว่า คณะกรรมการนโยบายน้ำมัน ที่ประชุมล่าสุด ได้มีการปรับสัดส่วนส่วนผสมของน้ำมันชีวภาพ จากบี 7 สู่ บี 5 โดยในวันที่ 4 ก.พ.นี้ จะแจ้งให้กับคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ ได้รับทราบเรื่องนี้ และจะมีการประกาศใช้ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เพื้่อเป็นการลดต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลลง ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันปาล์ม ก็จะลดลงเล็กน้อย ย้ำว่า ราคาน้ำมันนั้นมีปัจจัยมาจากตลาดโลก และเป็นเรื่องที่ต่อเนื่อง มีปัจจัยหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยเดิมคือ ค่าเงินบาทที่มีอัตราอ่อนตัว และปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ในประเทศแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย หรือยูเครน ที่ยังมีความตึงเครียดอยู่ โดยสหรัฐฯ ก็อยากจะมีการหารือในประเด็นนี้ จึงส่งผลให้มีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดอย่างชัดเจน ทำให้ราคาน้ำมันหรือราคาพลังงานเดิมที่จะอ่อนตัวลง ก็ขยับตัวสูงขึ้น ประกอบกับสหรัฐประสบภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ไทยต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า ปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น หากคลี่คลายก็จะส่งผลให้ราคาพลังงานอ่อนตัวลงได้ แต่ในระหว่างนี้รัฐบาลมีความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตรึงราคน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังเป็นราคาตามตลาดเสรี ซึ่งทำกันนานแล้ว แต่การลดสัดส่วนน้ำมันชีวภาพลงไป ในส่วนของน้ำมันดีเซล ก็จะทำให้ลดต้นทุน ราคาน้ำมันลงได้  พร้อมระบุว่า การแก้ปัญหาครั้งนี้ ยังอยู่ในวงเงินของกองทุนน้ำมัน 


นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวถึงช่วงปลายรัฐบาลมักมีปัญหาราคาสินค้าและน้ำมันสูงขึ้น  จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ว่า ทุกคนทราบดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาปัจจัยภายใน เป็นปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ จึงอยากให้เข้าใจว่า รัฐบาลได้ทำอย่างดีที่สุด ที่จะประคับประคองราคาทั้งสองอย่าง พร้อมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาถาวร หากปัจจัยการเงินระหว่างประเทศและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกลับมาปกติ ทุกอย่างก็จะกลับมาอยู่ในกรอบที่รัฐบาลบริหารจัดการได้ โดยจะต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องมีข้อสรุป แต่ยืนยันไทยมีแผนรองรับไว้แล้ว และมีการติดตามสถานการณ์ทุกวัน ทั้งราคาน้ำมันที่ยังตรึงอยู่ รวมทั้งติดตามราคาสินค้าที่มีแนวโน้มลดลง

ส่วนกระแสข่าวการยุบสภาฯในช่วงนี้ จะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจง ว่า จะกระทบหรือไม่ ต้องรอดูผลที่จะเกิดขึ้น แต่ว่าจากการติดตามผลสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย ที่จัดทำโดยเจโทร พบว่า มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีนี้เป็นบวก และเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม เท่ากับ 7-8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนตัวมองว่าอยู่ในจุดที่สูงสุดในรอบ 7 ปี ดังนั้นจึงคิดว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในจุดที่สร้างความมั่นใจเกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนต่างเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากปัจจัยภายนอก และมุมมองของนักธุรกิจญี่ปุ่น ยังเห็นว่าสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี จึงอยากให้ทุกคน และจากการพูดคุยกับนักลงทุนในหลายประเทศ ก็มีความพอใจ และมองว่าไทยเดินมาถูกทาง


นายสุพัฒนพงษ์ ยังยืนยัน จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ และรัฐบาลได้ทำดีที่สุดแล้วในการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ภายใต้กรอบการบริการจัดการ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า บ้านเมืองเพิ่งผ่านวิกฤตครั้งสำคัญ และวิกฤตยังไม่หมดไป ดังนั้นจึงต้องประคับประคองสถานการณ์ ให้มีโอกาสและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และนายกรัฐมนตรีตัดสินใจเปิดประเทศด้วยความระมัดระวัง เพื่อเพิ่มรายได้กลับเข้ามาสู่ประเทศไทย ให้เข้าสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด และเสริมการลงทุนให้มากที่สุด หวังให้คนไทยกลับเข้ามามีชีวิตปกติสุขและดีกว่าเดิม นี่คือความตั้งใจของรัฐบาล แต่เมื่อไม่พ้นวิกฤต ก็ต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆทั้งสิ้น เพราะเหตุการณ์ต้องดูวันต่อวัน ว่าสถานการณ์ขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายใน แต่เกิดจากปัจจัยภายนอก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี