มท.1 กำชับผู้ว่าฯ เข้มบังคับใช้กฎหมายแก้กักตุนโภคภัณฑ์

กระทรวงมหาดไทย 30 ม.ค.- มท.1 สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ให้กำหนดเนื้อสุกร หรือโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่ขาดแคลนอย่างผิดปกติ เป็นโภคภัณฑ์ที่ต้องทำการสำรวจในท้องที่จังหวัด หากพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะประธานกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์ราคาเนื้อสุกรและโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช และเครื่องอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ให้ถูกซ้ำเติมจากการฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้มีการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์แล้ว


พลเอก อนุพงษ์ กล่าวว่า เพื่อให้การบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการกักตุนโภคภัณฑ์ในสถานการณ์ที่เนื้อสุกรและโภคภัณฑ์บางชนิดมีราคาสูงขึ้นผิดปกติเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกประกาศกำหนดให้เนื้อสุกร หรือโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช ยารักษาโรค เวชภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาโรค ฯลฯ ซึ่งมีปัญหาการกักตุนหรือเกิดภาวการณ์ขาดแคลนโภคภัณฑ์ในท้องตลาดอย่างผิดปกติ เป็นโภคภัณฑ์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประสงค์จะทำการสำรวจฯ ตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ในเขตท้องที่จังหวัดนั้น ๆ และดำเนินการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ โดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญและกำชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย หากพบผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการหรือผู้ใดไม่ยอมชี้แจงข้อเท็จจริงหรือฝ่าฝืนคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และในกรณีผู้ใดขัดขวางการกระทำของคณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือไม่ให้ความสะดวกในการดำเนินการ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ และผู้ใดให้ถ้อยคำเท็จแก่คณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือให้ถ้อยคำเท็จในการแจ้งปริมาณหรือสถานที่เก็บโภคภัณฑ์ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ หาก ประชาชนพบเห็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง