ผอ.กกต.กทม. คาดปชช.ใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ไม่ต่ำกว่า 60%

สำนักงานเขตหลักสี่ 29 ม.ค.- ผอ.กกต. กทม. ประชุม เน้นย้ำประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง คาดประชาชนใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 – พรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 22.00 น. ระบุยังไม่มีเรื่องร้องเรียนทุจริตเพิ่มเติม


นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการทำงานให้กับประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง 124 คน ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 9 กรุงเทพมหานคร (หลักสี่-จตุจักร) โดยให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ทุกกระบวนการในการบริหารจัดการการเลือกตั้งซ่อมวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) มีความพร้อมเกือบ 100% เพราะวันนี้ยังมีการตรวจรับอุปกรณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งยังมีประเด็นบางอย่างที่ต้องเน้นย้ำกับประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันความผิดพลาดคาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับเลือกตั้ง ที่อาจเกิดจากความเผลอเลอของผู้ที่มาใช้สิทธิ อย่างกรณีการถ่ายภาพขณะลงคะแนนและโพสต์บนโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นข้อห้ามของกฎหมายเลือกตั้ง ที่ห้ามเผยแพร่ภาพบัตรเลือกตั้งที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนแล้ว เพราะถือเป็นความลับ หรือเผลอนำบัตรเลือกตั้งใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากหน่วยลงคะแนน หรือบางกรณีก็ทำบัตรเลือกตั้งฉีกขาดเสียหาย ซึ่งต้องถึงระมัดระวัง

ส่วนกรณีที่แต่ละพรรคการเมืองจะส่งผู้สังเกตการณ์ไปยังหน่วยเลือกตั้ง นั้น นายสำราญ กล่าวว่าบุคคลที่เป็นตัวแทน หรือผู้สังเกตการณ์ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เป็นตัวแทนที่พรรคการเมืองเสนอชื่อแต่งตั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 15 วัน ซึ่งตัวแทนจะสามารถเข้าไปอยู่ในหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งได้ ส่วนผู้สังเกตการของพรรคการเมือง ไม่ต้องแจ้งให้ กกต. ทราบ จึงมีความแตกต่างกันเรื่องมีหนังสือแต่งตั้งและสถานที่ที่สามารถเข้าไปอยู่ได้ แต่ต้องไม่ล่วงรู้เห็นถึงการลงคะแนน


ผอ.กกต.กทม. ยังกล่าวถึงเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อม หลักสี่-จตุจักร ว่า ขณะนี้ยังมีเพียงกระแสข่าวที่ถูกนำเสนอเท่านั้น ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเพิ่มเติม และจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร พบว่าการหาเสียงของผู้สมัครทั้งแปดหมายเลขเป็นไปด้วยความปกติตามข้อกฎหมายกำหนดทุกประการ

สำหรับช่วงคืนหมาหอนก่อนการเลือกตั้ง นั้น ผอ.กกต.กทม. กล่าวว่าสิ่งที่ผู้สมัครต้องระวังการกระทำผิดตามมาตรา 73 ของกฎหมายเลือกตั้ง เรื่อง การสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด รวมถึงข้อความคำพูดเอกสารที่หมิ่นเหม่ ที่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ด้วยความเท็จ และระยะเวลาในการหาเสียงต้องไม่เกิน 18.00 น. ของวันนี้ (29 ม.ค.) ในทุกช่องทางผู้สมัครจะต้องยุติทั้งหมด ขณะที่ กกต.กทม. ก็เฝ้าระวังเรื่องการพนันขันต่อในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และให้สายตรวจเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด เพราะอาจจะส่งผลถึงการจูงใจในการลงคะแนน

ส่วนกรณีพรรคการเมืองตั้งข้อสังเกตว่าในสถานการณ์โควิด-19 ผู้ไปใช้สิทธิต้องสวมหน้ากากอนามัยอาจมีการแฝงตัวไปลงคะแนนได้ นั้น ผอ.กกต.กทม. กล่าวว่าในการลงคะแนนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องแสดงตน หน้าตาต้องตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนที่นำมาแสดง ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ช่วงที่แสดงตนเพื่อรับบัตรเลือกตั้ง ผู้มาใช้สิทธิจะต้องเปิดแมสก์ให้เห็นใบหน้าทั้งหมด เมื่อกรรมการประจำหน่วยตรวจสอบแล้วเสร็จก็ให้สวมแมสก์ตามเดิม


ผอ.กกต.กทม. ยังระบุว่า ระบบการประมวลผล ในการเลือกตั้งซ่อม หลักสี่-จตุจักร ใช้ลักษณะเช่นเดียวกันกับการเลือกตั้งซ่อม ที่จังหวัดชุมพร และสงขลาที่ผ่านมา จึงคาดว่าระยะเวลาในการทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการจะไม่เกินเวลา 22.00 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]