“อนุทิน” ห่วงตรุษจีน- ไม่ห้ามเดินทาง

ทำเนียบรัฐบาล 28 ม.ค.- “อนุทิน” ชี้การประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นต้องใช้เวลา มีการวางแผนให้ประชาชนประกอบอาชีพ รับกังวลเทศกาลตรุษจีน ไม่ห้ามเดินทาง-รวมกลุ่ม แต่ขอป้องกันตัวเองให้ดี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า แม้ในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลง แต่ต้องเน้นดูในเรื่องของจำนวนผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิต  ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ขณะที่การติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา มียอดผู้เสียชีวิตสูงมาก แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนที่อาการไม่รุนแรง นอกจากนี้ต้องดูในรายละเอียด ขออย่าเพิ่งด่วนสรุปข้อมูล เบื้องต้นในสหรัฐอเมริกา มีผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนจำนวนมาก  และวิธีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกับเรา ขณะที่ประเทศไทยให้ความร่วมมือมากทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนยังเห็นประชาชนให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัย ดังนั้นการติดเชื้อจึงอยู่ในระดับที่ไม่เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเกิดมาจากการรวมตัวกัน ปาร์ตี้ ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ ถ้าฉีดวัคซีนแล้วและระมัดระวังกันแล้ว  ก็เหมือนจะเป็นการคัดกรองไปได้มาก เมื่อมีหลุดมาบ้างก็ยังให้การดูแลได้อยู่


ส่วนปัญหาการสอบ TCAS ได้มีการประสานมายัง สธ. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สาธารณสุขฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ต้องดูอะไรแล้ว เราให้มาตรการ D-M-H-T ถ้าคัดกรองเหล่านี้ได้ก็ถือว่าทำได้ นั่งห่างกัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ATK วัดอุณหภูมิ ได้รับวัคซีนครบโดสก็ปลอดภัยหมด ตอนนี้เรื่องวัคซีนไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรหลีกเลี่ยงการเฮฮา สังสรรค์ เพราะจากที่ได้รับการรายงานคลัสเตอร์หลักมาจากกลุ่มนี้

ส่วนจะมีการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างไร จึงจะมีการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น นายอนุทิน ระบุว่าต้องดูในหลายปัจจัย  ทั้งอัตราการป่วยหนัก เสียชีวิต ติดเชื้อ รวมถึงจำนวนการได้รับวัคซีน และความร่วมมือที่ได้รับ หากอยู่ในขั้นไม่ได้ก้าวกระโดด  ยอมรับว่าการประกาศโรคประจำถิ่นต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะประกาศพรุ่งนี้ แต่ต้องมีเป้าหมายและแนวทาง เพื่อประชาชนจะได้วางแผนไปข้างหน้าในการจะประกอบอาชีพหรือทำอะไรต่างๆ เมื่อถามถึงข้อกังวลการรวมกลุ่มในช่วงเทศกาลตรุษจีน นายอนุทิน กล่าวว่า หากหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มได้ก็ควรต้องทำ แต่การจะห้ามไม่ให้เดินทางหรือไม่ให้เจอใครเลยพูดไปก็เท่านั้น แต่ต้องป้องกันตัวเองให้ได้มากที่สุด .- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ