กทม. 26 ม.ค.- เกษตรกรขอบคุณ “พล.อ.ประวิตร” สั่ง บจธ. ช่วยเหลือมีอาชีพ มีที่ดินทำกิน ดันกฎหมายตั้งหน่วยงานดูแลต่อเนื่อง
26 มกราคม 2565 พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. กล่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล บจธ. มีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มว่าเกษตรกรและผู้ยากจนจะได้รับผลกระทบจากภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมไปถึงการสูญเสียสิทธิในที่ดินทำกินในอนาคต จึงสั่งการให้ บจธ. ดำเนินการติดตามก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดย บจธ. ได้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้วจำนวน 482 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1,234 ไร่ และโครงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน จากการจำนอง ขายฝาก และถูกบังคับคดี ได้มีที่ดินของตนเองกลับคืนมาแล้วจำนวน 387 ราย พื้นที่ 2,319 ไร่ และอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออีก 65 ราย โดยในการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืนมีขั้นตอนการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งหน่วยงานดูแลซึ่งอยู่ในระหว่างสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป
นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ บจธ. เปิดเผย ว่าปัจจุบัน บจธ. ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 11 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ 1 สหกรณ์การเกษตร ใน 5ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันตก จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบุรี และภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ได้สร้างระบบการบริหารจัดการกลุ่มร่วมกัน มีการออมเงิน การวางแผนการผลิตและแผนการตลาด เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มเอง ทุนคนมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยยกตัวอย่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ตำบลรังกาใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา จุดเด่นชุมชน “ชุมชนพิมายอุดมสุข แหล่งเรียนรู้การแปรรูปผลผลิต การทำปุ๋ยโบคาฉิ และพืชผักปลอดสารพิษ” เฉลิมชัย เลิศธรรม รองประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า สมาชิก 45 ครัวเรือน เนื้อที่ 150 ไร่เศษ กลุ่มเราร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี และมีความสามัคคีกัน ใช้พื้นที่คุ้ม ปลูกพืชใช้สอย 2-3 ชั้น อย่างเช่น ปลูกไม้ยืนต้น ต้นสัก ยางนา ปลูกไม้เลื้อย ปลูกอัญชัน ปลูกผักกาด กะหล่ำปลี พริก ชะอม กล้วย อ้อย ฟังทอง ผลไม้แตงโม ที่ขายได้ดีคือดอกดาวเรืองได้เก็บขายตลอด ตอนนี้พัฒนาพื้นที่ไปได้เกิน 90% แล้ว อนาคตของเราจะปลูกเกษตรอินทรีย์แบบเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งเป็นการท่องเที่ยวขุมชนได้ด้วย พวกเราคิดว่าจะทำโฮมสเตย์กัน เพราะพื้นที่เราเชื่อมโยงกับปราสาทหินพิมาย ส่วนมากคนจะมาซื้อผักมีเดินเข้ามาทุกวัน พวกเราก็ขายผักได้ทุกวัน บางแปลงมีผักเต็มพื้นที่ขายได้วันละ 40-50 กิโล จนเราทำให้เขาไม่ทัน ขอบคุณ บจธ. จริงๆ ที่ทำให้เรามีวันนี้
ด้านวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาบ้านมั่นคงเมืองแม่สอด ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก จุดเด่นชุมชน“ต้นแบบสมาชิกชุมชนเมืองที่รักการทำเกษตร พัฒนาสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรเมืองแม่สอด การบูรณาการกับท้องถิ่นที่เห็นภาพเป็นรูปธรรม”
มณีพรรณ โคตรบุตร ประธานกลุ่มฯ กล่าวว่า วันนี้เรามีที่ดินเท่านี้ ที่ บจธ. สนับสนุนมา 58 ไร่เศษ สมาชิกเรา 43 ครอบครัว เราพอใจแล้ว แต่วันหน้าเราต้องพัฒนาให้เกิดรายได้ ตอนนี้เราต้องเรียนรู้เรื่องดิน เรื่องน้ำ ให้อยู่ในกฎกติกาของกลุ่ม เรามีการปลูกพืชผักสวนครัว ผักชี หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาด ถั่วฝักยาว ที่ออกผลผลิตแล้วเอาแล้วมาแบ่งปันกัน ครอบครัวมีความสุข พ่อแม่ลูกช่วยกันทำสวน อยู่ร่วมกันไม่ขัดแย้ง กลายเป็นวิถีใหม่ ขอบคุณ บจธ. จริงๆ ถ้าไม่มี บจธ. เราก็คงไม่มีโอกาสได้มาถึงจุดนี้ เราสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เกษตรกรและผู้ยากจนที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 0 2278 1648 ต่อ 601, 511 หรือสอบถามพูดคุยได้ที่ inbox เว็บไซต์ https://www.labai.or.th/ .-สำนักข่าวไทย