กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-“อรรถวิชช์” หาเสียงโค้งสุดท้าย เดินให้ครบทุกหลัง ชู พรรคกล้ายึดปฏิบัตินิยม – พรรคเศรษฐกิจ เชื่อชาวกทม.อยากเห็นการเมืองคุณภาพ ปราศรัยใหญ่ 28 ม.ค.นี้ มีเซอร์ไพรส์
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมจตุจักร – หลักสี่ เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนา เชิงสะพานไม้ 1 และ 2 โดยเป็นการหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนตามบ้าน ตามยุทธศาสตร์เดินให้ครบทุกหลัง และเตรียมหาเสียงหลังตลาด ในมณฑลทหารบกที่ 11 โดยนายอรรถวิชช์ กล่าวถึงการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายว่า พยายามเดินเคาะให้ครบทุกหลัง เพราะคราวที่แล้วไม่ได้ลงเลือกตั้งที่เขตนี้ แต่ก็มีความคุ้นเคย
“อยากให้ประชาชนได้เห็นผลงานในอดีตที่เคยทำในพื้นที่สมัยเป็น ส.ส. ทำงานในสภาฯ มีส่วนออกร่างกฎหมาย 20 กว่าฉบับ ส่วนงานในพื้นที่ก็ประสานงานถนนหนทาง ท่อระบายน้ำ คราวนี้ก็เหมือนกับกลับมาบอกอีกครั้งว่า เราลุยนะ เราพร้อมสู้ ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี ผมเดินลงพื้นที่ทุกจุด ไม่มีจุดไหนที่เกิดปัญหา” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นายอรรถวิชช์ กล่าวถึงกรณีครม.อนุมัติโครงการคนละครึ่ง เฟสใหม่ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ขอย้ำเรื่องการเสียภาษีของผู้ค้าว่าไม่ควรจ่ายแบบเหมาจ่าย ให้เตรียมบิลให้ดีในการใช้หักภาษีได้เต็มร้อย อะไรทำดีอยู่แล้วก็อยากจะเข้าไปช่วย นาทีนี้ช่วงวิกฤติจะเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้
ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐชูสโลแกน “รักลุงตู่กาเบอร์ 7” นั้น นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะโครงสร้างของพลังประชารัฐขณะนี้ส.ส.หายไป 21 ที่นั่ง ถ้าปรับเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติโควิดก็ไม่ต้องแก้แล้ว เพราะจะเสียสมาธิทั้งหมด และว่า “เปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้ ที่พรรคพลังประชารัฐ ชูว่า “รักลุงตู่กาเบอร์ 7” ไม่ได้เป็นจุดแข็งการหาเสียงในครั้งนี้ ควรเลือกในสิ่งที่คิดว่าชาติควรจะเป็น”
นายอรรถวิชช์ กล่าวถึงการปราศรัยในค่ายทหาร ช่วงเย็นวันนี้ ว่า ต้องการไปแนะนำตัวว่าพรรคกล้าคืออะไร ทำไมแนวปฏิบัตินิยมถึงสำคัญกับประเทศนี้ หากปลูกฝังแนวปฏิบัตินิยมจะทำให้ชาติมั่นคงได้ ไม่คิดว่าการไปซ้ายสุดหรือขวาสุดจะเป็นทางออก พรรคกล้าจะไม่ยอมเป็นขวาตกขอบหรือซ้ายตกขอบเด็ดขาด แนวทางที่เดินอยู่สามารถทำได้และจะนำไปสู่ความปรองดอง
“ต้องรอดูวันที่ 30 ม.ค. เพราะพรรคกล้าเป็นพรรคเศรษฐกิจ อีกทั้งพรรคการเมืองที่เกิดใหม่ในช่วงนี้ก็เป็นในแนวนี้เยอะ แต่ยังไม่มีพรรคไหนส่งผู้สมัครลงสนาม จึงถือเป็นบททดสอบคนแรก ว่าการเลือกตั้งที่ไม่ได้เกิดความเกลียดความกลัว จะไปได้หรือไม่ ประชาชนอยากเห็นการเมืองแบบนี้ ฉะนั้นไม่ลองไม่รู้ มั่นใจว่าคนกรุงเทพฯ นำเทรนด์ใหม่ทางการเมืองมาตลอด ประชาชนคงต้องเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดของคนในพื้นที่นี้” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า วันที่ 28 มกราคมนี้จะเป็นวันปราศรัยใหญ่ และจะมีเซอไพรส์ใหญ่ด้วย ขอให้ประชาชนติดตาม การเลือกตั้งในวันที่ 30 มกราคมนี้ เชื่อว่าเป็นการชี้ชะตาการเมืองในอนาคต เพราะเราทำแนวทางการเมืองคุณภาพ เป็นพรรคเศรษฐกิจ เป็นแนวทางที่พรรคการเมืองควรจะเป็น การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกด้วยความหวัง อย่าเลือกด้วยความเกลียด ความกลัว โดยวันเลือกตั้ง พรรคกล้าได้เตรียมคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย