เหน็บ “จาตุรนต์” เล่นการเมืองถอยหลังลงคลอง

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-โฆษกรัฐบาลสวน “จาตุรนต์” นับวันยิ่งถอยหลังลงคลอง ชี้ถ้า “พล.อ.ประยุทธ์” นั่งนายกฯ ต่อเพราะประชาชนอยากให้อยู่ เหน็บอย่ารีบเล่นใหญ่ ทวงคืนพื้นที่ให้ตระกูลฉายแสงก่อนดีกว่า


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทยและอดีตรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาต่อจากนี้ไป ไม่ใช่เพื่อการแก้ปัญหาประเทศหรือสร้างผลงานใด ๆ แต่เป็นการซื้อเวลาเพื่อหาทางลดความเสียหายของพล.อ.ประยุทธ์เองว่า นายจาตุรนต์เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีและเป็นคนเดือนตุลา แต่นับวันความคิดยิ่งถอยหลังลงคลอง

“ไม่แปลกใจที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดตระกูลฉายแสงจึงสูญพันธุ์ หมดความขลัง แล้วก็คิดว่าคนอื่นจะเหมือนกับตัวเอง ยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ จึงไม่สนใจการตอบโต้ทางการเมืองใด ๆ ทำให้บางกลุ่มบางคนได้ใจ ออกมาบิดเบือนข้อเท็จจริงทุกวัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ระบุว่าสิ่งที่ประชาชนจะต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรรัฐบาลใหม่จะไม่ใช่พวกที่สืบทอดอำนาจมาด้วยกัน แต่เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนและพร้อมจะแก้ปัญหาประเทศตอบสนองความต้องการของประชาชนจริง ๆ นายธนกร กล่าวว่า ยิ่งฟังก็ยิ่งเห็นว่านายจาตุรนต์คงกู่ไม่กลับแล้ว อยากเป็นรัฐบาลมาก แต่คิดทำอะไรไม่เป็น จึงต้องอาศัยความเห็นประชาชนช่วยผลักดันตัวเองให้ได้เป็นรัฐบาล ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ต่อจากนี้เป็นการสืบทอดอำนาจ ก็คงเป็นการสืบทอดอำนาจจากประชาชนให้เข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ หลังรัฐบาลในอดีตปล่อยให้ทุจริตมากมายจนมีอดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกมากกว่า

“รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มาจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการเข้ามาแก้ปัญหาอย่างแท้จริง อยากแนะนำนายจาตุรนต์ อย่ารีบเล่นใหญ่ แค่ทวงคืนพื้นที่ให้ตระกูลฉายแสงให้ได้ก่อนจะดีกว่า เพราะคนในพื้นที่คงเกิดคำถามแล้วว่า ตระกูลฉายแสงอยู่ต่อแล้วประชาชนจะได้อะไร” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย