ไทย-ซาอุฯ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตให้เป็นปกติ


ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย 26 ม.ค.-“นายกรัฐมนตรี” นำคณะ เดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติสมบูรณ์ สะสางประเด็นที่คั่งค้าง เห็นพ้องตั้งเอกอัครราชทูตประจำเมืองหลวงของทั้งสองประเทศในอนาคตอันใกล้ เพื่อส่งเสริมร่วมมือทวิภาคี


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางถึงกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อเวลา 11.20 น.ของวันที่25 มกราคม 2565 ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด ซึ่งตรงกับเวลา 15.20 น. ตามเวลาประเทศไทย ในโอกาสเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี



จากนั้นในเวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด ซึ่งตรงกับเวลา 17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ พร้อมเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือข้อราชการ ณ สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบีย (Royal Court) พระราชวังอัล ยะมามะฮ์ (Al Yamamah Palace)


โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยถึงผลการหารือว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีอย่างสมเกียรติ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการสะสางประเด็นที่คั่งค้างทั้งหมดระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย และปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้เป็นปกติ รวมทั้งยังได้ย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรของสองราชอาณาจักร และการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย



นายธนกร กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับชาอุดีอาระเบีย และแสดงความเสียใจยิ่งต่อโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2532-2533 ยืนยันว่า ไทยได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในการสะสางกรณีต่าง ๆ และหากมีหลักฐานใหม่ก็พร้อมที่จะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยพิจารณา ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยของคนชาติของกันและกันในแต่ละประเทศ


นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาค ประเด็นระหว่างประเทศต่าง ๆ และได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกสาขา และยังเห็นพ้องที่จะเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ และการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของแต่ละฝ่าย เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองราชอาณาจักร


ทั้งนี้ไทยและซาอุดีอาระเบีย คำนึงถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือและความตั้งใจร่วมกัน เพื่อฟื้นฟูมิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชน ภายใต้การนำและพระราชวิสัยทัศน์อันเข้มแข็ง ของ สมเด็จพระราชาธิบดีซัสมาน บิน อับดุลอะชีซ อัลชะอุด (His Majesty King Salman bin Abdulaziz Al Saud) และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย โดยสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ ซึ่งความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความพยายามในหลายระดับของทั้งสองฝ่ายที่มีมาอย่างยาวนาน เพื่อฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกัน



นายธนกร กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกับขั้นตอนสำคัญต่าง ๆ ที่จะดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำเมืองหลวงของทั้งสองประเทศในอนาคตอันใกล้ และการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี การติดต่อประสานงานอย่างเต็มที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงหลายเดือนหน้า เพื่อหารือความร่วมมือทวิภาคีในสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญ


พร้อมหารือแนวทางในการส่งเสริมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองราชอาณาจักรโดยการแสวงหาโอกาสในด้านการลงทุนและอื่น ๆ ในบริบทของวิสัยทัศน์ ค.ศ 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และวาระการพัฒนาแห่งชาติของไทยอย่างนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio – Circular – Green Economy) และเห็นพ้องที่จะแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ อาทิ พลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนา และความมั่นคงทางไซเบอร์ และยังเน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับความสัมพันธ์ที่กำลังเดิบโตระหว่างทั้งสองราชอาณาจักร รวมทั้งการส่งเสริมการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างศาสนาและพหุวัฒนธรรม


นายธนกร กล่าวว่า ไทยและซาอุดีอาระเบียเห็นพ้องที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในองค์การและเวทีระหว่างประเทศ และเนันย้ำความสำคัญของการยึดมั่นของทุกประเทศต่อกฏบัตรสหประชาชาติ บรรทัดฐานระหว่างประเทศ รวมถึงหลักการการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตย การไม่แทรกแซงกิจการภายใน และการระงับข้อขัดแย้งโดยสันติวิธี พร้อมยังยินดีกับบทบาทที่สร้างสรรค์ของกันและกันในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทที่สำคัญของไทยในอาเชียน และบทบาทนำของชาอุดีอาระเบียในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม


โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีกับซาอุดีอาระเบียสำหรับความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพและการจัดการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งได้ส่งผลเชิงบวกในหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การพัฒนาสิ่งแวดล้อม สาธารณสุข พลังงาน เป็นต้น ซึ่งมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรชาอุดีอาระเบียทรงแสดงความมั่นใจว่าการเป็นเจ้าภาพกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) และการประชุมกรอบความร่วมมือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ในปี 2565 ของไทยจะประสบความเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเติบโตที่ยั่งยืน สมดุล และมีส่วนร่วมของเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลกในยุคหลังโรคโควิด-19


ทั้งนี้ไทยยินดีกับกับข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียสีเขียว (Green Saudi Initiative) และตะวันออกกลางสีเขียว (Middle East Green Initiative) ที่ริเริ่มโดยมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย รวมถึงชื่นชมบทบาทนำของซาอุดีอาระเบียในประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบเชิงบวกต่อภูมิภาคและประชาชน มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรชาอุดีอาระเบียทรงชื่นชมนโยบาย BCG ของไทย ซึ่งมุ่งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรประสิทธิภาพ แปลงขยะให้กลายเป็นความมั่งคั่ง ฟื้นคืนความหลากหลายทางชีวภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะชีช อัลชะอูด และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และได้ถวายพระพรชัยมงคลแด่ทั้งสองพระองค์ให้ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ และขออวยพรให้ประชาชนชาวซาอุดีอาระเบียมีความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง ด้านมกุฏราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียได้ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์และทรงพระเจริญ และทรงอำนวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพดี ประสบความสุขสวัสดี และทรงอำนวยพรให้ประชาชนชาวไทยมีความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง


ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย พระราชทานอาหารเลี้ยงกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ณ พระราชวังอัล ยะมามะฮ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]