ซาอุดิอาระเบีย 26 ม.ค.-ไทย-ซาอุฯ เห็นพ้องสองประเทศพบกันครั้งนี้เป็นโอกาสขยายความร่วมมือด้านแรงงาน พร้อมเร่งรัดดำเนินการทั้งภาคบริการ โรงแรม อุตสาหกรรม ก่อสร้างให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ม.ค.) เวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พบหารือทวิภาคีกับ Ahmad Sulaiman ALRajhi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาทางสังคม ซาอุดีอาระเบีย ณ เรือนรับรองแขกต่างประเทศ พระราชวังคิงซาอุด ระหว่างร่วมคณะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือ ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ซาอุดีอาระเบียกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและยินดีที่ได้มีโอกาสหารือกระชับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน ทั้งนี้ มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงมีบัญชาให้กระทรวงฯ ดำเนินการจัดการหาแรงงานดีมีฝีมือ โดยตั้งเป้าให้ได้ 8 ล้านคน ซึ่งไทยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และซาอุดีอาระเบียประสงค์ผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวขอบคุณสำหรับการเข้าพบหารือในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวไทยที่ประสงค์กลับเข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง ไทยมีแรงงานศักยภาพที่มีฝีมือ สอดคล้องกับความต้องการของซาอุดีอาระเบีย และกระทรวงแรงงานยังมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่สามารถฝึกอาชีพ และประสบการณ์ให้ตรงกับแรงงานในสาขาที่ซาอุดีอาระเบียต้องการ รวมทั้งมีบริษัทจัดหางานที่มีความน่าเชื่อถือ จดทะเบียนกับกระทรวงแรงงานภายใต้การควบคุมของกระทรวงแรงงาน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ฝ่ายซาอุดีอาระเบียกล่าวถึงมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมี E-Contract Program เป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง ลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง รวมถึงมีข้อริเริ่ม Labor Mobility Initiative ให้แรงงานเคลื่อนย้ายได้อิสระ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สร้างประสิทธิภาพ และความสามารถการแข็งขันในตลาดแรงงาน
“ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดความร่วมมือในอนาคต หากเร่งรัดความร่วมมือได้โดยเร็วจะสร้างผลประโยชน์อย่างมากต่อทั้งสองประเทศ ซึ่งโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาของซาอุดีอาระเบียยังคงต้องการการสนับสนุนจากต่างชาติ ทั้งในด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว และด้านแรงงานจำนวนมาก เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ แรงงานฝีมือและกึ่งฝีมือของไทยได้เข้ามามีส่วนร่วม” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย