จ.สิงห์บุรี 25 ม.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่สิงห์บุรี – ชัยนาทติดตามสถานการณ์น้ำ เร่งขับเคลื่อนแผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาปี 65 ให้เป็นไปตามแผน จัดหาแหล่งน้ำสำรอง วางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่จังหวัดชัยนาทและสิงห์บุรี เพื่อขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกของเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลาง โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา แผนการบริหารจัดการน้ำและการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง รวมทั้งมาตรการรองรับการขาดแคลนน้ำ โดยติดตามสภาพน้ำบริเวณเขื่อนเจ้าพระยา
ทั้งนี้ ภาพรวมคาดการณ์ว่าเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม 2565 จะมีฝนน้อยกว่าปกติ และจะมีฝนทิ้งช่วงในมิถุนายน – กรกฎาคม ส่วนแผนงานโครงการน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาปี 65 จำนวน 96 โครงการ 5,428 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์ 66,065 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์ 11,832 ครัวเรือน
พล.อ.ประวิตรเดินทางต่อไปที่จังหวัดสิงห์บุรี รับฟังบรรยายสรุปถึงแผนการปลูกข้าวนาปรังในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และติดตามความคืบหน้าโครงการแก้มลิงและโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า อ.อินทร์บุรี พร้อมพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ช่วยกันเร่งรัดขับเคลื่อนแผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาปี 65 ให้เป็นไปตามแผนงาน โดยขอให้เร่งเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ การเติมน้ำและเตรียมน้ำสำรอง จัดสรรน้ำในฤดูแล้ง เพื่อวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งของเกษตรกร พร้อมทั้งให้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำและทำความเข้าใจกับประชาชนในคราวเดียวกัน
“ขอให้ส่วนราชการต่างๆในพื้นที่จังหวัดชัยนาทบริหารจัดการและควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผน และดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่งให้มีน้ำทำนาตลอดฤดูการเพาะปลูก เพื่อชดเชยกับผลกระทบที่ได้รับในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา และขอให้กำจัดผักตบชวาต่อเนื่องโดยเฉพาะหน้าเขื่อนและประตูระบายน้ำทุกแห่ง” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้เร่งแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นการเร่งด่วน โดยให้เร่งรัดโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ตำบลหัวป่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแก้ปัญหาภัยแล้ง ใน 3 ตำบลกว่า 1,400 ไร่ ให้มีผลผลิตด้านการเกษตรสู่ครัวอาหารของโลก ซึ่งรัฐบาลกำลังผลักดันให้เป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย