รัฐสภา 21 ม.ค.-“หมอระวี” ฉุนคนปล่อยข่าวพรรคเล็กทิ้งนายกฯ ทำการเมืองไม่สร้างสรรค์ ย้ำจุดยืนหนุนต่อ ระบุไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์ “พล.อ.ประยุทธ์” แต่ยึดมั่นหลักการที่รัฐบาลปกป้องสถาบันหลักชาติ ซื่อสัตย์ ทุ่มเทเพื่อบ้านเมือง
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงกรณีกระแสข่าวพรรคเล็กจะย้ายไปร่วมงานกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ว่า วานนี้ (20 ม.ค.)มีคนปล่อยข่าวกับสื่อมวลชนว่ากลุ่มพรรคเล็ก 9 ส.ส.มีแนวโน้มจะตามร.อ.ธรรมนัสไป ยกเว้นตนนั้น การปล่อยข่าวแบบนี้สร้างความเสียหายกับกลุ่มพรรคเล็ก จากข่าวนี้สื่อหลายสำนักนำไปขยายความต่อว่าศึกครั้งนี้กล้วยที่พรรคเล็กจะได้รับ จะได้กันแบบยกทั้งเครือ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง แน่นอนว่าถ้าพรรคเล็ก 9 ส.ส.ไปร่วมกับร.อ.ธรรมนัสจริง จะสร้างอำนาจต่อรองอย่างแรงต่อนายกรัฐมนตรี ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ยอม อาจถึงขั้นยุบสภาได้
นพ.ระวี กล่าวว่า ความขัดแย้งครั้งนี้เป็นความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ รวมทั้งกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ผมขอเตือนไปยังส.ส.คนใดที่ปล่อยข่าวแบบนี้ เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ในยามโควิดระบาดและข้าวยากหมากแพงในขณะนี้ ประเทศและประชาชนต้องการนักการเมืองที่คิดหาทางช่วยประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี ไม่ใช่คิดแต่จะเล่นเกมการเมือง เพื่ออำนาจผลประโยชน์และคิดแต่จะหากล้วยเช่นนี้
“ผมเชื่อว่าส.ส.พรรคเล็กจำนวนมากจะยืนหยัดทำในสิ่งที่ควรจะทำ สิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ได้คิดแต่จะกินกล้วย แต่อาจจะมีบางคน บางพรรคเท่านั้น ที่อาจจะตามร.อ.ธรรมนัสไป ถ้ามี ก็คงเป็นเพียงส่วนน้อย สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่เองที่ถูกปล่อยข่าวว่าเหลือพรรคเดียวที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับบิ๊กตู่นั้น ในความจริงแล้วพรรคเล็กส่วนมากยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่ นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวว่า พลังธรรมใหม่ไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยึดมั่นหลักการสนับสนุนรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 60 รัฐบาลที่คอยปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ สุจริต ทุ่มเททำเพื่อบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาพรรคพลังธรรมใหม่ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ในรัฐบาล รัฐบาลมีจุดอ่อนจุดใด พลังธรรมใหม่ก็จะเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงอย่างจริงจัง ดังนั้น ในภาวะวิกฤติโควิดรุนแรงทั่วโลก รัฐบาลย่อมอาจจะมีจุดอ่อนจากการบริหารอยู่บ้าง มีความผิดพลาดอยู่บ้าง แต่จุดยืนทั้ง 3 ประการ รัฐบาลยังมีอยู่ครบ พลังธรรมใหม่จึงยังคงยืนหยัดรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ให้บริหารประเทศต่อไป
เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองช่วงนี้อย่างไร เพราะเสียงของรัฐบาลที่หายไปอาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล นพ.ระวี กล่าวว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพแน่นอน แต่ในส่วนพรรคพลังธรรมใหม่วิเคราะห์แล้วว่าต่อให้ 21 เสียงไปอยู่กับฝ่ายค้าน หรือต่อให้กลุ่มพรรคเล็กบางส่วนตามร.อ.ธรรมนัสไปแล้วโหวตให้กับฝ่ายค้าน หรือโหวตคว่ำรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงในสมัยประชุมหน้าช่วงเดือนพ.ค. หรือเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เข้าสภาฯ ตนยังเชื่อว่ารัฐบาลจะผ่านไปได้
“ถึงอย่างไรเสียงรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านเกือบ 7 เสียง ซึ่งคล้ายกับรัฐบาลในปีแรกที่มีเสียงปริ่มน้ำ และถ้าเป็นการโหวตเรื่องสำคัญ รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.ก็ต้องทิ้งงานและเข้ามาร่วมประชุมสภาฯ แต่ในภาวะเช่นนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกคนต้องเข้าร่วมประชุมสภาฯ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดสภาฯ ล่มได้ ซึ่งนาน ๆ จะเกิดเหตุการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้นับองค์ประชุม” นพ.ระวี กล่าว
เมื่อถามว่าคาดหวังหรือไม่ว่ากลุ่มร.อ.ธรรมนัสยังทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป นพ.ระวี กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก เพราะขึ้นอยู่กับการเจรจา คิดว่าสื่อและประชาชนคงอ่านเกมส์ออก เพราะแปลกที่ขับส.ส.ออกจากพรรคถึง 21 คน และน่าแปลกมากที่มติกรรมการบริหารพรรคขับตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังก่อไผ่แน่นอน และคงจะต้องมีการต่อรองอะไรกันพอสมควร ซึ่งตนไม่ทราบ และผลจะเป็นอย่างไรอาจจะฝันค้างก็ได้ หรืออาจจะเป็นฝันที่เป็นจริงก็ได้
เมื่อถามย้ำว่าพรรคเล็กที่มีเจตจำนงค์ชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับร.อ.ธรรมนัสแล้วกี่พรรค นพ.ระวี กล่าวว่า ขอให้ไปดูการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 ว่ามีพรรคเล็กใดบ้างที่อยู่กับรัฐบาลหรือไม่อยู่กับรัฐบาล เชื่อว่าพรรคเล็กส่วนมากยังคิดถึงเรื่องบ้านเมืองมากกว่าเรื่องกล้วย หากสถานการณ์ไปไม่ไหวจนนายกรัฐมนตรีคิดยุบก็ต้องยุบ พรรคพลังธรรมใหม่พร้อมเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าหากนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจยุบสภาคาดว่าจะเป็นช่วงหลังเปิดประชุมสภาฯ สมัยหน้าช่วงเดือนพ.ค.ไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย
