สร้างอนาคตใหม่ชัด ไม่หนุน “พล.อ.ประยุทธ์”

กรุงเทพฯ 19 ม.ค.-“อุตตม –สนธิรัตน์” เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ชูจุดยืนไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ ลั่นออกจากพปชร.แล้วไม่หันหลังกลับ พร้อมเสนอแคนดิเดตนายกฯ 3 ชื่อ ไม่มี “พล.อ.ประยุทธ์”


นายอุตตม สาวนายน อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทยและผู้ร่วมก่อตั้งพรรค โดยมีสโลแกนว่า “ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ” ซึ่งการเปิดตัววันนี้(19 ม.ค.) มีทั้งอดีตนักการเมือง โดยเฉพาะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐที่เพิ่งลาออกคือนายสุพล ฟองงาม นายสันติ กีระนันท์ และจากพรรคการเมืองอื่น อาทิ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ กรรณิการ์ อดีตโฆษกหลายกระทรวง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ คนสนิทนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตแกนนำพรรคกล้า นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า

นายมนต์ชีพ ศิวะนางกูร หรือนายสะอาด นักร้องนักดนตรีชื่อดัง นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพ รองเลขาจุฬาราชมนตรี บุตรชายนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆและปราชญ์ชาวบ้าน


ขณะเดียวกันมีนักการเมืองเข้าร่วมสังเกตการณ์ก่อนตัดสินใจจะทำงานร่วมกับพรรคสร้างอนาคนไทยหรือไม่ หลังจากที่ได้รับการทาบทามและชักชวนให้มาร่วมงาน อาทิ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่มีความสนิทสนมกับนายอุตตม ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคไทยรักไทยและรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มาร่วมงานเปิดตัวด้วย

นายอุตตม ประกาศเจตนารมย์ว่า จะทำงานเพื่อบ้านเมือง แก้ปัญหาที่สั่งสม และสร้างอนาคตไทย ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยจะไม่ได้เป็นเพียงพรรคการเมือง แต่จะเป็นพื้นที่เปิดเพื่อรวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ที่จะมาช่วยกันระดมความคิด ช่วยกันฟื้นเศรฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

“พวกเราหารือร่วมกันมีความเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วงมาก ทั้งมิติเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยเฉพาะเศรษฐกิจปัญหาปากท้องประชาชนเดือดร้อนทุกทั่วย่อมหญ้า รายได้สวนทางกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งภัยพิบัติโควิด-19 ที่ยังไม่เห็นว่าจะไปถึงจุดสิ้นสุดเมื่อใด ในมิติด้านสังคม เมื่อเศรษฐกิจสะดุดลงปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มมากขึ้นกระทบความมั่นคงทางสังคม ปั่นทอนคุณภาพชีวิตและความหวังของคนไทยในอนาคต ตลอด 1 ปีครึ่ง ผมและนายสนธิรัตน์ที่ออกจากรัฐบาลได้พบเจอผู้คนรับฟังเสียงสะท้อน คือความต้องการที่อยากเห็น สมการการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง” นายอุตตม กล่าว


นายอุตตม กล่าวว่า อยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มประชาชนหลายหลายภาคส่วน ระดมกำลังแก้ไขปัญหาประเทศ เพื่อจะไม่ต้องเผชิญกับความท้อแท้และไม่ต้องกังวลถึงอนาคตว่าจะไปต่ออย่างไร  พรรคสร้างอนาคตไทยถือกำเนิดเกิดจากกกล่มบุคคลากร หลากหลายความรู้ หลายประสบการณ์ และจากทุกภาคส่วน จากสายการเมือง เชิญชวนผู้คนที่อาจไม่พร้อมทำงานการเมือง แต่มีใจสนับสนุนความคิดแก้ปัญหาเพื่อประเทศชาติ ได้เชิญชวนบุคคล อดีตรัฐมนตรี ผู้บริหารจากภาคเอกชน โดยจะเริ่มรับฟังความเห็น เพื่อกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ 

“ปัญหาบ้านเมืองใหญ่หลวงนักไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในคนจำนวนน้อย จากนี้ไปพวกเราที่แสดงเจตจำนงค์วันนี้จะเริ่มรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวความคิด นโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางปฎิบัติที่ทำได้จริง เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศในปัจจุบันจนถึงการวางรากฐานของอนาคต โดยมุ่งมั่นว่าคนไทยต้องมีความหวังที่จับต้องได้ มีโอกาสพัฒนาความสามารถ ความฝันของแต่ละคน เข้าถึงแหล่งทุนต่อยอดความคิด ธุรกิจตัวเอง มีสิทธิเสรีภาพ ได้รับความยุติธรรม เสมอภาค พรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ เราจะอาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย เราเคยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยทำงานร่วมกันให้บ้านเมือง แต่เมื่อเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนก็ออกมา มีพรรคใหม่ ไม่ได้ทำเพื่อใคร และพวกเราเดินมาเเล้วไม่หันหลังกลับ” นายอุตตม กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนและนายอุตตมไม่ได้คิดจะกลับมาทำงานการเมืองอีก ถือว่าเพียงพอแล้วกับการทำงานที่ผ่านมาหลายปี แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19  ที่กระทบกับประชาชน เกิดความสิ้นหวัง จึงหารือพูดคุยกันเป็นระยะ และมีความจำเป็นขออาสามาเป็นความหวังให้กับประชาชนแก้วิกฤติ การตั้งพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้น เพราะสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะเป็นความหวัง ต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจะนำพาบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤติ

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หลายคนช่วยอยู่เบื้องหลังเพราะยังไม่พร้อมและไม่อยากเปิดเผยตัว เพราะการเมืองไทยการเป็นเรื่องที่ยาก พร้อม ย้ำว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคของตนเองและนายอุตตม แต่ตนสองคนเป็นเพียงผู้อาสาที่จะสร้างอนาคต โดยวันนี้บุคคลกรที่พร้อมเปิดตัวเป็นเพียงชุดแรก แต่ยังมีอีกจำนวนมากไม่ได้เปิดตัว แต่พร้อมสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง วันนี้ตั้งใจว่าพรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นเสาหลักต้นหนึ่งในทางการเมือง

“สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าพรรคจะเสนอ 3 ชื่อตามกฎหมาย แต่ไม่เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคนี้ ยอมรับว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์มีความเหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่สุดท้ายพรรคต้องพิจารณาร่วมกัน อีกทั้งพรรคมีความแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น เพราะจะเน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลักและไม่สร้างความแตกแยก” นายสนธิรัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]