กรุงเทพฯ14 ม.ค.-ทีมกม.พรรคกล้าร้องกกต. สอบ “สรัลรัศมิ์” หลังกล่าวหา “อรรถวิชช์” ดูหมิ่นเพศหญิง ย้ำต่อไปถ้ามีดราม่าการเมือง พร้อมดำเนินการ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม จตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนตั้งแต่ช่วงเช้าในตลาดย่านหลักสี่ โดยให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจและการจัดการภาษีกับพ่อค้าแม่ค้า พร้อมรับฟังปัญหาต้นทุนสินค้าราคาแพง ทั้งหมู ไก่ ไข่ และเป็ด ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ทั้งนี้ นายอรรถวิชช์มอบหมายให้นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคกล้า เป็นผู้แทนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร(กกต. กทม.) ให้ตรวจสอบการกระทำของนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73(5) กรณีใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมหรือไม่
นายณัฐนันท์ กล่าวว่า ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐพูดพาดพิงนายอรรถวิชช์ ที่มีข้อความไม่ตรงกับความจริง โดยกล่าวหาว่านายอรรถวิชช์ดูถูกเพศแม่ มีพฤติกรรมที่ดูถูกผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงจำเป็นต้องมายื่นเรื่องให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครตรวจสอบ
“ส่วนประเด็นที่ระบุว่าผู้สมัครของเราดูหมิ่น ทีมกฎหมายตรวจสอบอย่างละเอียด และไม่พบข้อความลักษณะดังกล่าว รวมถึงเนื้อหาอื่น ๆ ก็ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดใด แต่ในทางตรงข้ามการขยายความต่อเรื่องนี้ มีการนำข้อเท็จจริงขยายความไปเกินความจริง ซึ่งเมื่อไม่ตรงกับความจริง เราต้องยื่นเรื่องให้กกต.ตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบหลักฐานค่อนข้างง่าย เนื่องจากผู้สมัครพรรคดังกล่าวอ้างอิงคลิปให้สัมภาษณ์คลิปหนึ่งที่ไม่ยาวมาก เราก็ไปตรวจสอบว่ามันจริงไม่จริงตรงไหน พอไม่มีในคลิปที่กล่าวอ้าง ก็ถือว่าไม่ตรงความจริง และทำให้มีผู้หลงเชื่อไปโจมตีผู้สมัครของเรา แต่ก็มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายท่านที่เข้าใจ และบอกว่าไม่มีข้อความลักษณะนั้น” นายณัฐนันท์ กล่าว
นายณัฐนันท์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเข้าสู่การสวบสวนของกกต. หากพบการกระทำความผิด อาจจะนำมาสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือการดำเนินคดีอาญาในลำดับถัดไป ในฐานะฝ่ายกฎหมายเราอยากทำการเมืองสร้างสรรค์ อยากให้นายอรรถวิชช์มีเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ หากมีเรื่องไหนที่คล้าย ๆ ดราม่าการเมืองและถูกนำไปขยายความต่อ เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายที่จะดำเนินการทุกเรื่องจนถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย