กทม.ติดเชื้อพุ่ง หลังกลับจาก ตจว.

ทำเนียบรัฐบาล 12 ม.ค.-ศบค.แถลงยอดติดเชื้อรายใหม่ 7,681 ราย พบกรุงเทพฯ ยอดสูงสุด หลังกลับมาจากต่างจังหวัด ห่วงคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ-สถานบันเทิง


พญ.สุมณี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7,681 ราย ติดเชื้อในประเทศ 7,392 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 227 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 12 ราย ผู้ป่วยหายแล้ว 3,350 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 66,286 ราย โดยรักษาตัวในโรงพยาบาล 37,313 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 28,973 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 480 ราย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ 108 ราย ผู้เสียชีวิต 19 ราย พบว่าเป็นชาย 10 ราย หญิง 9 ราย โดยเป็นผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ราย เป็นผู้อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 5 ราย ไม่มีโรคเรื้อรัง 2 ราย

พญ.สุมณี กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับ กรุงเทพมหานคร 892 ราย ชลบุรี 873 ราย สมุทรปราการ 523 ราย ภูเก็ต 488 ราย ขอนแก่น 277 ราย อุบลราชธานี 269 ราย นนทบุรี 251 ราย เชียงใหม่ 194 ราย ศรีสะเกษ 167 ราย และบุรีรัมย์ 166 ราย ทั้งนี้ จะพบว่า กรุงเทพมหานครเริ่มกลับมามีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด เนื่องจากคนกลับมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาทำงานในกรุงเทพฯ ปัจจัยเสี่ยงยังพบการกิน ดื่ม ในช่วงพักเที่ยงและหลังเลิกงาน ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เพราะต้องถอดหน้ากาก


“จาก 10 อันดับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ศบค.ยังแสดงความเป็นห่วงการติดเชื้อในพื้นที่ จ.นนทบุรี และปทุมธานี ที่พบว่าก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อเพียงหลักสิบ และเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 หลัก ซึ่งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้า 8 จังหวัด เพิ่มความเข้มมาตรการ คลัสเตอร์ที่พบยังคงเป็นร้านอาหารกึ่งผับ กึ่งสถานบันเทิง ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี 26 ราย น่าน 22 ราย อุดรธานี 6 ราย พะเยา 3 ราย ขอนแก่น 6 ราย เชียงใหม่ 26 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย คลัสเตอร์งานสังสรรค์อีก 2 จังหวัด คือ อุดรธานี 9 ราย หนองบัวลำภู 6 ราย คลัสเตอร์โรงงาน พบที่ จ.นครพนม 18 ราย คลัสเตอร์งานบุญ พบที่ จ.อุบลราชธานี 3 ราย คลัสเตอร์สถานศึกษา พบใน 3 จังหวัด ที่ จ.จันทบุรี 6 ราย กรุงเทพฯ 5 ราย นนทบุรี 2 ราย” พญ.สุมณี กล่าว

พญ.สุมณี กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 2,772,068 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 25 ของโลก

พญ.สุมณี กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทย หลังจากวันจันทร์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (12 ม.ค.65) จำนวนผู้ติดเชื้อยังทรงตัวและลดลงอย่างช้าๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อชะลอและควบคุมการระบาด โดยอัตราการติดเชื้อ 100 ต่อแสนของจำนวนประชากร ส่วนการระบาดในช่วงเดือนมกราคม 2565 พบความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าในช่วงเดือนเมษายน 2564 อันเนื่องมาจากการได้รับวัคซีน


“พบอัตราของผู้ป่วยจากปอดอักเสบมีจำนวนลดลงเช่นกัน ทำให้เห็นว่าเชื้อโควิดเข้าข่ายลักษณะการแพร่ระบาดแบบเชื้อประจำถิ่น ซึ่งเราสามารถอยู่และใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ต้องระวังและคงมาตรการแบบนิวนอร์มอล ทั้งนี้ ยังไม่พบการเสียชีวิตจากเชื้อโอไมครอน จึงถือว่าความรุนแรงของเชื้อโอไมครอนในประเทศไทยยังน้อยกว่าเดลตา โดยจะยังคงยึดมาตรการการตรวจ ATK ทุกครั้งที่ร่วมกิจกรรมต่างๆ” พญ.สุมณี กล่าว

พญ.สุมณี กล่าวว่า สำหรับรายงานการฉีดวัคซีนวันนี้ เพิ่มขึ้น 513,208 โดส โดยยอดสะสม 107,271,904 โดส แบ่งเป็นยอดรวมเข็มที่ 1 จำนวน 51,592,872 โดส คิดเป็นร้อยละ 71.6 เข็มที่ 2 จำนวน 47,056,159 โดส คิดเป็นร้อยละ 65.3 และเข็มที่ 3 จำนวน 8,622,873 โดส คิดเป็นร้อยละ 12.0 นอกจากเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว จะเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 ให้บุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จะได้มีภูมิคุ้มกันต่อสู้ขณะทำงาน ซึ่งวันนี้มีรายงานการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ในกรุงเทพมหานคร 5 โรงพยาบาล

พญ.สุมณี กล่าวถึงการติดเชื้อของเด็กนักเรียนและนักศึกษา อายุ 0-19 ปี ตั้งแต่ช่วงระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง 7 มกราคม 2565 จากผู้ติดเชื้อ 7,526 ราย พบว่าเป็นนักเรียน นักศึกษา 1,048 ราย โดย 10 จังหวัดของการติดเชื้อของกลุ่มนี้ อายุ 6-18 ปี พบมากสุดที่กรุงเทพฯ ชลบุรี อุบลราชธานี สมุทรปราการ พังงา กาฬสินธุ์ ภูเก็ต ขอนแก่น พัทลุง และร้อยเอ็ด โดยมีสาเหตุมาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งเป็นคนในครอบครัว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]