มท.1 หารือขับเคลื่อนงานผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ย้ำเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนในพื้นที่

มท.1 หารือขับเคลื่อนงานผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เน้นย้ำเร่งแก้ไขปัญหา

5 ม.ค. – มท.1 หารือขับเคลื่อนงานผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ผ่านระบบ VCS เน้นย้ำเร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน


วันนี้ (5 ม.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกระทรวง ที่ปรึกษาระดับกระทรวง หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนปลัดกรุงเทพมหานคร โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโนบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งการบริหารราชการในระดับพื้นที่เป็นกลไกสำคัญในการนำนโยบายไปขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับพี่น้องประชาชน พร้อมมอบแนวทางการทำงาน 7 ข้อ ได้แก่ 1) การยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ในการบริหารราชการระดับพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายทั้งในด้านการควบคุมดูแลและการกำกับดูแล ให้เป็นไปอย่างครบถ้วน โปร่งใส ไม่ขาดตกบกพร่อง 2) ต้องรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ด้วยการแบ่งพื้นที่ดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทั้งด้านกายภาพ ถนนหนทาง สายไฟฟ้า สายสื่อสาร ขยะในที่สาธารณะ การก่อสร้าง และปรับปรุงพร้อมทั้งดูแลรักษาให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม อยู่เสมอ และหากพบปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ต้องเร่งแก้ไขตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน 3) ด้านการบริหารจัดการและการจัดการน้ำเสีย ต้องกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการเป็นไปตามแผนที่ท้องถิ่นกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้จะเกิดปัญหา “ขยะติดเชื้อ” จากชุดตรวจ ATK และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องทำขยะติดเชื้อให้เป็นขยะทั่วไป ตามมาตรการของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบริหารจัดการขยะเหล่านี้ตามหลักวิชาการ และเสริมสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะดังกล่าว


4) การบริหารจัดการสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ดำเนินมาตรการควบคุมทั้งยานพาหนะ การก่อสร้าง ส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ไปทำประโยชน์อื่นแทนการเผาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำกับดูแลในพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด 5) การฟื้นฟูหลังเกิดสาธารณภัย ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการสำรวจและซ่อมบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเยียวยาผลกระทบจากความเสียหายตามระเบียบของทางราชการให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้อง ครบถ้วน 6) การบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อยากต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการสถานการณ์ฯ และ 7) การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ มีจำนวนลดลง แต่ทั้งนี้ ขอให้รณรงค์สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 พฤติกรรมหลักที่เป็นสาเหตุ คือ การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และการดื่มสุราแล้วขับขี่ พร้อมทั้งวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุเพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการเพิ่มเติมต่อไป

ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานและจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณตามแผนของท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน 2) ติดตามและสำรวจสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรที่ล้นตลาดหรือสินค้าที่มีจำนวนมากตามฤดูกาล และประสานองค์การตลาดเข้าไปรับซื้อสินค้าและบริหารจัดการจัดหาสถานที่ระบายสินค้า 3) ส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP ให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือช่องทางการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รายได้กลับคืนสู่ชุมชน 4) ประสานหน่วยงานของการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ การขาดแคลนน้ำ การจัดหาแหล่งน้ำ และน้ำต้นทุน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในด้านการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มาประชุมหารือนำสภาพปัญหามาประชุมหาทางออก รวมทั้งบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ได้ และ 2) ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมในการทำให้สถิติของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ลดลง


ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยต้องให้ความสำคัญในการทำงานด้วยความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล ทั้งการประเมินความโปร่งใส (ITA) ของ ป.ป.ช. และการส่งเสริมให้ข้าราชการบุคลากรมีคุณธรรมจริยธรรมในการทำงาน 2) การบริหารจัดการงานบริหารทั่วไป เช่น การติดต่อประสานงานระหว่างกระทรวง กรม และจังหวัด การสนับสนุนการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น 3) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจตลาดชุมชน ตลาดท้องถิ่น ตลาดออนไลน์ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความพร้อม เพื่อให้ผู้ผลิตและเจ้าของตลาดได้พบปะกัน และพัฒนาตลาดไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งให้ความสำคัญในการลงพื้นที่ไปสร้างขวัญกำลังใจ ไปตรวจเยี่ยม จับจ่ายใช้สอยอุดหนุนผู้ประกอบการ และกำหนดแนวทางสื่อสารกับสังคมให้ได้รับรู้รับทราบ และ 4) ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการตรวจติดตามการขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยด้วยความมุ่งมั่น เพื่อแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเพื่อบังเกิดผลให้พี่น้องประชาชนสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย