ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 3 อดีตนายทหารสำคัญ

สำนักงานป.ป.ช. 28 ธ.ค.-สำนักงานป.ป.ช. เผยบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินอดีตปลัดกห.-อดีตผบ.ทร. คนละกว่า 20 ล้าน ส่วนอดีตผบ.ทอ. รวย 108 ล้าน


สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ  กรณีพ้นจากตำแหน่ง โดยพล.อ.ณัฐและนางรมิดา คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 29,514,036 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของพล.อ.ณัฐ 19,743,167บาท แยกเป็นเงินฝาก 1,484,079 บาท  เงินลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ 62,000 บาท ที่ดิน 1 แปลงในจังหวัดฉะเชิงเทรา 5 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5,800,000 บาท ยานพาหนะ 1,395,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 717 ,238 บาท

ทรัพย์สินอื่น ๆ 5,285,300 บาท  เช่น  นาฬิกา 9  เรือน มูลค่า 1,935 ,300 บาท พระสมเด็จ 1 องค์ มูลค่า 1 ล้านบาท ชุดพระเครื่อง 5 องค์ มูลค่า 1,635,000 บาท ชุดพระเลี่ยมทอง 6 องค์ มูลค่า 5แสนบาท อาวุธปืน 2 กระบอก ชุดพระพุทธรูปบูชา 10 องค์   ซึ่งระบุประเมินค่ามิได้  ส่วนหนี้สิน เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 607,5 65 บาท ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐแจ้งว่ามีรายได้และรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ คือเงินเดือน 1 ,485,000 บาท เบี้ยประชุมและค่าตอบแทน 820,000 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1 แสนบาทเงินบริจาค 2 แสนบาท


ส่วนทรัพย์สินของนางรมิดา คู่สมรสจำนวน 9,770,418 บาท แยกเป็นเงินฝาก 32,127 บาท ที่ดินในจังหวัดปราจีนบุรีและกรุงเทพฯ รวม 3 แปลง 6 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 ล้านบาท ยานพาหนะ 360,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 28,291 บาท  ทรัพย์สินอื่น ๆ 2,350,000 บาท เช่น ชุดแหวนประดับ ต่างหู สร้อยคอ พระเครื่องเลี่ยมทอง กำไล เป็นต้น

พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน อดีตผู้บัญชาการทหารเรือและนางจุฬารัตน์ คู่สมรสแจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 29 ,270,306 บาท แยกเป็นทรัพย์สินของพล.ร อ.ชาติชาย 25,398,206 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก  3,308,800 บาท เงินลงทุน 2,165,670 บาท ที่ดิน 9,894,000 บาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง  3,840,000  บาท ยานพาหนะ 1,530 ,000 บาท  และสัมปทาน 2,141,736 บาท ทรัพย์สินอื่น  2,518,000 บาท เช่น สร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมทอง แหวนและนาฬิกา Rolex

พล.ร.อ.ชาติชาย แจ้งว่า มีรายได้และรายจ่ายต่อปี เป็นเงินเดือน 970,000 บาท  เงินตำแหน่งเงินค่าตอบแทน 500,000 บาท เบี้ยประชุมเบี้ยเลี้ยงเดินทาง  650,000 บาท เงินปันผลสหกรณ์  28,000 บาท มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว 800,000 บาท ค่าผ่อนบ้าน 351,600 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 2 แสนบาท


ขณะที่นางจุฬารัตน์ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 3,872,099 บาท แยกเป็นเงินฝาก 283,245 บาทสิทธิและสัมปทาน  348,354 บาท ทรัพย์สินอื่น ๆ 3,240,500 บาท เช่น    เข็มขัดนาค นาฬิกา สร้อยคอ แหวน ตุ้มหู

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศและคู่สมรส คือ นางพรรณรพี สุทธิวรรณ อาจารย์คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 108,960,960 บาท เป็นทรัพย์สินของพล.อ.อ.แอร์บูล  20,590,105บาท โดย แยกเป็นเงินสด 3 แสนบาท เงินฝาก 9,744,685 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิด ตราสาร  จำนวน 4,553,483 บาท ยานพาหนะ 1 ล้านบาท และสัมปทาน 1,931,937บาท ทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวน 3,060,000 บาท เช่น  ทองคำแท่ง 5 แท่ง 40 บาท เพชร นาฬิกาBreitling  พระเลี่ยมทอง

ส่วนรายได้และรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ พล.อ.อ.แอร์บูล แจ้งว่ามีเงินเดือน 1,400,000  บาท เบี้ยประชุม 672,000 บาท รายจ่ายค่าอุปโภคบริโภค 360,000 บาท ประกันชีวิต 1 แสนบาท กองทุนต่าง ๆ 2 แสนบาท อุปการะมารดา 1 แสนบาท เงินบริจาค 5 หมื่นบาท ท่องเที่ยว 150,000 บาท

สำหรับทรัพย์สินของนางพรรณรพี คู่สมรส 88,3 70 ,854 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 6,903,173 บาท เงินลงทุน 6,026,085 บาท ที่ดิน 34,732,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 29,700,000 บาท ยานพาหนะ 70,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,696,894 บาท   ทรัพย์สินอื่น ๆ 7,412 ,200 บาท ซึ่งเป็นเครื่องประดับรวม 70 รายการ เช่น  แหวนทองประดับเพชร สร้อยข้อมือประดับพลอย พระเลี่ยมทอง ตุ้มหูฝังเพชร ชุดสร้อยสังวาลย์ พร้อมจี้ แหวนเพชรพลอยหลากสี มรกต ทับทิม ทั้งนี้ นางพรรณรพีแจ้งว่ามีรายได้และรายจ่ายต่อปีโดยประมาณเงินเดือน 1,980,000 บาท เบี้ยประชุม 38,200 บาท .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย