ทำเนียบรัฐบาล 28 ธ.ค.-รมช.สธ. คาดหลังปีใหม่ยอดผู้ติดเชื้อจะพุ่ง สั่ง รพ.พร้อมรับมือ ประเมินสถานการณ์หลัง 4 ม.ค.จะปรับมาตรการเข้มขึ้นหรือไม่ วอนรัฐ-เอกชน WFH หลังปีใหม่ ห่วงเด็กต่ำกว่า 12 ปีไม่ได้ฉีดวัคซีน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวแสดงความเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะนำข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขที่จำลองประเมินสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่อาจจะเกิดขึ้นกำชับต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แม้โอไมครอนจะไม่มีอาการรุนแรง แต่พยายามจะไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น เพราะหากติดเชื้อต้องกักตัวและกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในภาพรวม จึงมีความพยายามให้ติดเชื้อน้อยที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจการเดินหน้าเปิดประเทศ
“กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้ข้าราชการที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้าน(Work From Home : WFH) ได้หลังจากเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยวันที่ 4 ม.ค. หลังเปิดทำงานวันแรก จะประเมินสถานการณ์ได้ชัดเจนขึ้น เชื่อว่าช่วงกิจกรรมของปีใหม่คงหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโอไมครอนได้ยาก เนื่องจากมีการรวมตัวกัน ซึ่งเป็นมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานสามารถทำได้ และรัฐบาลมำเป็นตัวอย่าง ถ้าภาคเอกชนปฏิบัติตามจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนระยะเวลาการ WFH จะยาวนานเท่าใด ขอประเมินหลังเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งหากร่วมมือกันเป็นอย่างดีและตัวเลขหลังปีใหม่ไม่ก้าวกระโดดจะทำให้มาตรการต่าง ๆ เบาลง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทยอยชัดเจนขึ้นเป็นผลจากพฤติกรรมที่อั้นมานาน ตัวเลขจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในช่วง 2 วันหลังปีใหม่ ประกอบกับมาตรการต่าง ๆ ของทุกภาคส่วนเริ่มหย่อนยาน แต่แม้จะพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้น แต่เหตุการณ์จะไม่ซ้ำรอยกับช่วงหลังสงกรานต์เมษายน 2563 เนื่องจากอาการของโรคไม่รุนแรง แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จะมีสัดส่วนการติดเชื้อสูงขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลเครือข่ายของกรุงเทพมหานคร ซึ่งหากมีอาการหนักจะให้โรงพยาบาลเอกชนรับไปดูแล หลังจากนี้จะไปดูความพร้อม รวมถึงต้องดูปัจจัยการติดเชื้อ จึงจะตัดสินใจได้ว่าเด็กยังต้องเรียนออนไลน์ต่อไปหรือไม่.-สำนักข่าวไทย