พบติดโอไมครอนในไทยแล้ว 205 คน


ทำเนียบ 24 ธ.ค.- ศบค. เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,671 ราย พบติดไอไมครอนในไทยแล้ว 205 ราย ขณะ 5 จังหวัดรายงานความคืบหน้าจัดงานปีใหม่ ย้ำมาตรการป้องกันจำกัดร่วมงาน 1 พันคน ยันมีวัคซีนเพียงพอ เล็งฉีดให้แรงงาน-กลุ่มเปราะบาง-ศูนย์พักพิง



พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 2,671 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,175,809 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,766 ราย รวมหายป่วยแล้ว 2,117,526 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 38,192 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 836 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 218 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 21,434 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 24 ธันวาคม 2564 โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 2,671 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 2,558 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 2,502 ราย, จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 56 ราย, จากเรือนจำ 58 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 55 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้ 27 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 14 คน เป็นคนไทยทั้งหมด ระหว่าง 50-94 ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 78 เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังร้อยละ 15


ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ 10 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพฯ 411 รายชลบุรี 175 ราย นครศรีธรรมราช 144 ราย สมุทรปราการ 87 ราย สงขลา 85 ราย,ขอนแก่น 73 ราย ราชบุรี 60 ราย พัทลุง 59 ราย พิษณุโลก 59 ราย และเชียงใหม่ 56 ราย



ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 278 ล้านราย เสียชีวิตแล้วกว่า 5.4 ล้านคน สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 52.7 ล้านราย อินเดีย 34.7 ล้านราย บราซิล 22.2 ล้านราย สหราชอาณาจักร 11.7 ล้านราย รัสเซีย 10 ล้านราย โดยมีประเทศที่มีการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน ยืนยันแล้ว 98 ประเทศ ที่สหรัฐอเมริกา ยืนยันการแพร่ระบาดครบ 50 รัฐแล้ว ซึ่งการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าอย่างรวดเร็ว ส่วนการแพร่ระบาดในทวีปเอเชียที่มักจะตามหลังทวีปยุโรป ดังนั้นจึงนอนใจไม่ได้ เพราะเมื่อทวีปยุโรปมีการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวลดลง ทวีปเอเชียจะมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น


พญ.อภิสมัย ยังกล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์ โอไมครอน ในประเทศไทย พบแล้ว 205 ราย โดยล่าสุดที่ประชุม EOC รายงานว่า เป็นผู้ป่วยจากจังหวัดกาฬสินธุ์ สามีภรรยาเดินทางมาจากเบลเยียม ทั้งคู่อายุ 47 ปี โดยเข้ามาประเทศไทยด้วยเงื่อนไขที่จะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ผลเป็นลบ ก่อนที่จะเดินทางกลับกาฬสินธุ์ และได้ไปรับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด เริ่มมีอาการวันที่ 13 และ 15 ธันวาคม โดยทั้ง 2 คนเดินทางไปธนาคาร และสถานที่ราชการหลายแห่ง การโดยสารรถตู้ประจำทางไปจังหวัดขอนแก่น พบปะผู้คน และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ตรวจ RT-PCR ยืนยันเป็นบวก และตรวจสายพันธุ์ยืนยันเป็นโอไมครอนจากคลัสเตอร์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 21 คน โดยล่าสุดรายงานผู้เดินทางจากต่างประเทศ พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ของผู้เดินทางเข้าประเทศ ทำให้หลายหน่วยงานเริ่มยกระดับความเข้มงวดการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือบางหน่วยงานยกเลิกการจัดเทศกาลปีใหม่ บางร้านอาหารประกาศปิด เพื่อเตรียมมาตรการให้รัดกุมมากขึ้น เพราะเชื่อดังกล่าวถ้าเราอยากได้รวดเร็วและติดง่าย


พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงการจัดงานปีใหม่ที่จะมี 5 จังหวัด ซึ่งกำหนดเป็นพื้นที่จัดงานปีใหม่เข้ารายงานความคืบหน้า ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ระยอง ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชน จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการไปร่วมงานปีใหม่ใน 5 จังหวัดดังกล่าว โดยจำกัดเพียง 1,000 คนเท่านั้น มีการโหลด application QQ เพื่อจองคิวล่วงหน้า โหลด application จะเปิดวันที่ 25 ธันวาคม โดยจะต้องลงข้อมูลตามมาตรการของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม มีการตรวจ ATK ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนเข้าร่วมงาน โดยที่จังหวัดภูเก็ต มีการจัดหมอพร้อม station อำนวยความสะดวก ให้นักท่องเที่ยวไปตรวจ ATK ตามจุดที่กำหนดได้ มีจุดตรวจคัดกรองอุณหภูมิภายในงาน



นอกจากนี้ยังขอให้ทุกคนที่จะไปร่วมงานปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็น 5 จังหวัดดังกล่าว หรือที่อื่นๆ ประเมินตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน กรมอนามัย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ปลอดภัยกับตัวเราและบุคคลอื่น


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำทุกโรงพยาบาล ระบบสาธารณสุขต่างๆ ขอให้เตรียมความพร้อม ข้าราชการทุกภาคส่วน ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ รวมทั้งศูนย์กักกันในชุมชน community isolation หรือการจัดทีมรองรับการแพร่ระบาด home isolation ส่วนการให้วัคซีนแอสตราเซเรกา ที่จะให้เป็นวัคซีน บูสเตอร์ เข็มที่ 3 มีแนวโน้มการป้องกันสายพันธุ์โอมิครอน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วไปรับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้ ยืนยันขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอ


ขณะที่ยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทยวันนี้(24 ธ.ค.) 101,609,859 โดส คิดเป็นเข็มที่ 1 ร้อยละ 70.6 เข็มที่ 2 ร้อยละ 62.5 เข็มที่ 3 ร้อยละ 8


พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.มีการพูดถึงการฉีดวัคซีนในกลุ่มเปราะบางที่เข้าถึงยาก ต้องขอบคุณทั้งกระทรวงมหาดไทย สมาคมเจ้าของเรือไทย กรมเจ้าท่า และศรชล ที่รายงานความคืบหน้าการฉีดวัคซีนกลุ่มแรงงานประมง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ วิธีการทำบันทึกสำรวจ ว่า มีรายงานอีกส่วนหนึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เนื่องจากอยู่ในทะเล ประมาณ 300 คน หากเข้าฝั่งจะพยายามฉีดวัคซีนให้ได้ทั้งหมด รวมทั้งแรงงานต่างด้าว ศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย