รร.มิราเคิลฯ 18 ธ.ค. – ประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์คึกคัก “จุรินทร์” ขอพรรคสามัคคี ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ยันให้โอกาสคนทำงานทุ่มเทเสียสละเพื่อพรรค มั่นใจจะเรียกศรัทธากลับคืนจากประชาชน พร้อมขอบคุณ “อภิสิทธิ์” จะช่วยหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
พรรคประชาธิปัตย์ ประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2564 โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และสมาชิกพรรค เข้าพรรคประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายจุรินทร์ กล่าวกับสมาชิกในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เปรียบเหมือนเครื่องบิน แม้จะตกหลุมอากาศบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ อาจมีเลือดไหลออก แต่ก็มีเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ถือว่าเป็นพรรคการเมืองของทุกรุ่น และต้องยอมรับว่า หลังการเลือกตั้งปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคขนาดกลาง มีเพียง 52 ที่นั่ง การตัดสินใจจึงแบ่งเป็น 2 ทาง คือ เป็นฝ่ายค้านและร่วมรัฐบาล แต่สุดท้ายพรรคก็ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ด้วยการลงมติ ภายใต้เงื่อนไขในการเลือกกระทรวงหลัก ก็คือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้มาโดยการเจรจา ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ การทำงานเพื่อประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ผู้ด้อยโอกาสต้องได้รับการดูแล จึงทำให้สามารถมีโอกาสดูแลประชาชนทั่วประเทศในหลากหลายอาชีพ ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคน รวมถึงเงื่อนไขนโยบายที่รัฐบาลต้องนำประกันรายได้เข้าไปเป็นนโยบายของรัฐบาล และการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการยึดหลักซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งนายจุรินทร์ ประกาศยืนยันว่า สามารถทำได้ครบแล้ว
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงข่าวที่ทำให้เกิดความสะเทือนใจ เรื่องการลดโทษให้กับนักโทษในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เหลือเพียงไม่ถึง 10 ปี ได้สร้างกระแสไม่ยอมรับในสังคม ซึ่งการลดโทษเป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ที่มีอธิบดีตัดสินใจเพียงคนเดียว และในกฎหมายกรมราชทัณฑ์ก็มีช่องโหว่ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคแรกที่ขอเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้การลดโทษในคดีทุจริต ต้องเป็นอำนาจของศาล ไม่ใช่อำนาจของกรมราชทัณฑ์เพียงอย่างเดียว ถือเป็นการตอกย้ำอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยึดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นการแก้ไขได้ฉบับเดียวก็ตาม แต่ฉบับนั้นถือเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ และยังคงเดินหน้าต่อไปสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตรงกับทิศทางของพรรค เพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนัก ภายใต้สโลแกน “ทำได้ไว ทำได้จริง” เชื่อมั่นว่าประชาชนมองเห็นและให้การต้อนรับมากขึ้น โดยเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์มาถูกทางแล้ว
นายจุรินทร์ ยังยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ ทำให้ประชาชนท้องอิ่ม ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่เพียวๆ จนลืมเศรษฐกิจปากท้อง ที่ต้องเดินไปด้วยกัน และขอฝากภารกิจให้ทุกคนช่วยกันทุ่มเทรณรงค์ให้กับผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา และชุมพร รวมถึงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยให้ระดมสรรพกำลังทั้งหมด และที่สำคัญขอให้มีความสามัคคีช่วยกันทำงานเพื่อพรรค
“ยืนยันคนที่ทำงานทุ่มเทและเสียสละเพื่อพรรค ตนพร้อมให้โอกาสทุกคน โดยท่านไม่ต้องลังเล เพราะมีแต่สิ่งนี้ คือ ความร่วมมือร่วมใจสามัคคี ทุ่มเทให้พรรค ที่จะทำให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้า และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์อาจไม่ใช่พรรคการเมืองใหญ่ที่สุด แต่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ประชาชนตั้งความหวังไว้กับเรามากที่สุด ที่ประชาชนตั้งความหวังไว้กับเรา เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของประชาชน ภารกิจสำคัญข้างหน้าต้องไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง 2 ปีเศษที่ผ่านมา คือ บทพิสูจน์ทุกสิ่งที่เราให้คำมั่นสัญญาว่า ไม่ว่าใครพูดอะไร เราบอกอะไรกับประชาชน เราทำได้ และเมื่อขึ้นปีที่ 3 เราต้องเดินหน้าทำต่อไป ทำได้ไว ทำได้จริง และที่สำคัญต้องทำให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในตัวเรา และเมื่อถึงวันที่ประชาชนให้โอกาส เราจะได้เดินหน้าลงมือทำได้ทันที เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ ยังขอบคุณสมาชิกพรรค ขอบคุณกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และนายอภิสิทธิ์ ที่คอยให้คำแนะนำ และตั้งใจจะช่วยพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ มั่นใจว่าด้วยอุดมการณ์ ผลงาน และความร่วมมือสามัคคีของทุกคน พรรคจะเรียกศรัทธากลับคืนมาจากประชาชนได้ในเวลาอีกไม่นาน. – สำนักข่าวไทย