ไทยพบสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 17 ธ.ค. – ศบค.กำชับโรงแรมสถานบริการกำชับนักท่องเที่ยวต่างประเทศสวมหน้ากากอนามัย   ไทยยังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย เตือนสถานประกอบการจะจัดงานปีใหม่เข้มมาตราการ  ส่วนผู้ติดเชื้อวันนี้ 3,537 ราย ตาย 41 คน ผับบาร์ สถานบันเทิง ยังไม่สามารถเปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้


 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  วันนี้(17 ธ.ค.)  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 3,338 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 182 ราย   ผู้ป่วยหายแล้ว 5,459 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 43,479 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22,257 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 21,222 ราย  อาการหนัก 972 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 254 ราย  และมีผู้เสียชีวิต 41 คน  เป็นชาย  21 ราย หญิง 20 ราย  คนไทย 39 คน เมียนมา 1 คน และอังกฤษ 1 คน  โดยผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 คน อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 6 คน  ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 คน  ทั้งนี้การเสียชีวิตยังพบว่าเป็นการสัมผัสและติดเชื้อจากคนในครอบครัว  โดยยอดการติดเชื้อ 10 อันดับแรกได้แก่   กทม.  578 ราย นครศรีธรรมราช 208 ราย ชลบุรี 166  ราย  สงขลา 137 ราย สมุทรปราการ 128 ราย สุราษฎร์ธานี 89 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย  พัทลุง 77 ราย ปัตตานี 74 ราย  และเชียงใหม่ 65 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับครัสเตอร์ที่มีการรายงานเข้ามา พบการติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดกระบี่ 137 ราย  เรือนจำกลางปัตตานี 36 ราย โรงงานและบริษัท ที่ปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรี  ส่วนที่ประจวบคีรีขันธ์ พบในห้างสรรพสินค้า ส่วนครัสเตอร์ ที่พบในตลาดมีหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง ลพบุรี อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช รวมทั้งพบในงานศพ ที่นราธิวาส และแม่ฮ่องสอน  ส่วนแคมป์คนงาน พบที่ กทม. ชลบุรี  และครัสเตอร์ ร้านหมูกะทะ เจตบางกะปิ กทม. 12 คน


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก  ยังได้มีการหารือถึงการเดินทางกลับบ้านและการฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้อีกเน้นย้ำไปทางจังหวัดให้เฝ้าระวังและคัดกรองคนที่เดินทางกลับบ้าน เพราะหากคนเหล่านี้หากเดินทางกลับจากที่ทำงานซึ่งเป็นแคมป์คนงาน โรงงาน อาจจะมีการสัมผัสเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการ และเมื่อเดินทางกลับ หลังจากเทศกาลปีใหม่ มาทำงานก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นสถานประกอบการและโรงงานต้องมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับบ้านในข่วงเทศกาลปีใหม่   ในการรายงานในวันนี้มี 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ คือ จังหวัดอุตรดิตถ์และอำนาจเจริญ

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึง ข้อกำหนด มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 40 ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ขอเน้นย้ำ หากมีการจัดงานที่มีคนมากกว่า 1,000 คน ผู้จัดงานต้องขออนุญาต มีผลฉีดวัคซีนผู้ให้บริการครบทุกราย มีผลตรวจ ATK เป็นลบ 72 ชม.ก่อนเริ่มงาน รวมทั้งผู้ร่วมงานด้วย  แต่หากเป็นงานที่มีคนต่ำกว่า 1,000 คน ผู้จัดและผู้บริการก็ยังคงต้องฉีดวัคซีนครบ และผลตรวจ ATK ก่อน 72 ชม. แต่ผู้ร่วมงานของเพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามในแต่ละจังหวัดจะมีการประกาศมาตรการในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือเลี้ยงฉลองเป็นกลุ่มย่อย

พร้อมย้ำประการข้อกำหนด การอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารหรือสถานประกอบการ เฉพาะเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม ประกาศที่มีผลตั้งแต่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ผับบาร์ สถานบันเทิง ที่เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ถือว่าผิด ยังไม่สามารถเปิดและจำหน่ายได้


นอกจากนี้ ศบค.จะมีการลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อดูการจัดสถานที่เพื่อจัดงานปีใหม่  เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และหนองคาย  ที่จะลงพื้นที่ วันที่  24 ธันวาคมนี้ เพื่อดูมาตราการก่อนเปิดด่านชายแดนแห่งแรก  เพื่อเป็นต้นแบบนำร่องเปิดด่านชายแดนทางบกในจังหวัดอื่นๆ เช่น มุกดาหาร  นครพนม และอุบลราชธานี

ส่วนรายงานผู้เดินทางเข้าประเทศไทย (16 ธ.ค.) จำนวน 11,060 ราย พบผู้ติดเชื้อ 16 คน เมื่อรวมกับผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 1-16 ธันวาคม จำนวน 122,363 คน มีผู้ติดเชื้อ 226 คน เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน มีผู้เข้ามา 133,061 คน จะพบว่าในเดือนธันวาคมมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น  รายงานผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน  14 ราย  ที่เดินทางเข้าประเทศในโครงการ Test&Go ( ไม่ต้องกักตัว)

“แม้นักเดินทางที่เข้ามาในประเทศแบบไม่ต้องกักตัวจะพบว่ามี จำนวนผู้ติดเชื้อไม่สูง แต่เราต้องเตรียมรองรับกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในประเทศกิจกรรมและกิจการเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เราจะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ก็คงต้องเตรียมการเฝ้าระวังด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวว่า ในส่วนของประเทศที่เดินทางเข้ามาสูงสุด คือ เยอรมนี  สหราชอาณาจักร รัสเซีย ยูเออี ฝรั่งเศส สวีเดน  สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นอร์เวย์ และอิสราเอล  ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาเหล่านี้ได้มีการตรวจและผลเป็นลบ  แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทยก็พบผลเป็นบวกได้ ประกอบกับในหลายประเทศ มีท่าทีปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งต้องเน้นย้ำโรงแรมที่ให้บริการ ให้แจ้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาให้ปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไทยอย่างเคร่งครัด  ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยถือว่ามีความผิด สามารถที่จะปรับได้สูงถึง 20,000 บาท และสามารถปฏิเสธการให้บริการได้

ส่วนรายงานผู้ติดเชื้อโควิดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น  711,255 ราย    จะพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา  ซึ่งสอดคล้องกับการที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุในก่อนหน้านี้  ว่าแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง แต่เมื่อประชากรได้รับการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม อัตราการเสียชีวิตก็ยังคงน้อยอยู่   รวมทั้งรัสเซีย และเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงสุด จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา

สำหรับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก  ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาด  ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ และกำลังมีการตรวจสอบอีก 5 ราย   ขณะที่มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน รายที่สองเป็นเด็กอายุ 8 ปี ทำให้ทางการมาเลเซียประกาศเข้มงวดห้ามรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และออกมาตรการให้ประชาชนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และตรวจสอบผู้เกี่ยว ข้องกับสายพันธุ์โอไมครอนอีก 18 ราย   ส่วนเกาหลีใต้ก็มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิดรอบใหม่ เช่น ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่อนุญาตให้ใช้บริการร้านอาหารนอกบ้านร่วมกับบุคคลอื่น ภัตรคาร คาเฟ่ เปิดไม่เกิน 21.00 น. รายงานการฉีดวัคซีนในประเทศ ( 16 ธ.ค.) ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 416,336 โดส  รวมทั้งประเทศ เข็ม 1 จำนวน 50,314,980 ราย  เข็ม 2 จำนวน 43,974,460 ราย และเข็ม 3 จำนวน  4,567,313 ราย  พร้อมกำชับผู้ฉีดวัคซีนรับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หลังพบการจับกลุ่มเอกสารการฉีดวัคซีนปลอมที่จังหวัดอุดรธานี.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย