ไทยพบสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 17 ธ.ค. – ศบค.กำชับโรงแรมสถานบริการกำชับนักท่องเที่ยวต่างประเทศสวมหน้ากากอนามัย   ไทยยังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย เตือนสถานประกอบการจะจัดงานปีใหม่เข้มมาตราการ  ส่วนผู้ติดเชื้อวันนี้ 3,537 ราย ตาย 41 คน ผับบาร์ สถานบันเทิง ยังไม่สามารถเปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้


 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  วันนี้(17 ธ.ค.)  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 3,338 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 182 ราย   ผู้ป่วยหายแล้ว 5,459 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 43,479 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22,257 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 21,222 ราย  อาการหนัก 972 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 254 ราย  และมีผู้เสียชีวิต 41 คน  เป็นชาย  21 ราย หญิง 20 ราย  คนไทย 39 คน เมียนมา 1 คน และอังกฤษ 1 คน  โดยผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 คน อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 6 คน  ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 คน  ทั้งนี้การเสียชีวิตยังพบว่าเป็นการสัมผัสและติดเชื้อจากคนในครอบครัว  โดยยอดการติดเชื้อ 10 อันดับแรกได้แก่   กทม.  578 ราย นครศรีธรรมราช 208 ราย ชลบุรี 166  ราย  สงขลา 137 ราย สมุทรปราการ 128 ราย สุราษฎร์ธานี 89 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย  พัทลุง 77 ราย ปัตตานี 74 ราย  และเชียงใหม่ 65 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับครัสเตอร์ที่มีการรายงานเข้ามา พบการติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดกระบี่ 137 ราย  เรือนจำกลางปัตตานี 36 ราย โรงงานและบริษัท ที่ปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรี  ส่วนที่ประจวบคีรีขันธ์ พบในห้างสรรพสินค้า ส่วนครัสเตอร์ ที่พบในตลาดมีหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง ลพบุรี อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช รวมทั้งพบในงานศพ ที่นราธิวาส และแม่ฮ่องสอน  ส่วนแคมป์คนงาน พบที่ กทม. ชลบุรี  และครัสเตอร์ ร้านหมูกะทะ เจตบางกะปิ กทม. 12 คน


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก  ยังได้มีการหารือถึงการเดินทางกลับบ้านและการฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้อีกเน้นย้ำไปทางจังหวัดให้เฝ้าระวังและคัดกรองคนที่เดินทางกลับบ้าน เพราะหากคนเหล่านี้หากเดินทางกลับจากที่ทำงานซึ่งเป็นแคมป์คนงาน โรงงาน อาจจะมีการสัมผัสเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการ และเมื่อเดินทางกลับ หลังจากเทศกาลปีใหม่ มาทำงานก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นสถานประกอบการและโรงงานต้องมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับบ้านในข่วงเทศกาลปีใหม่   ในการรายงานในวันนี้มี 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ คือ จังหวัดอุตรดิตถ์และอำนาจเจริญ

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึง ข้อกำหนด มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 40 ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ขอเน้นย้ำ หากมีการจัดงานที่มีคนมากกว่า 1,000 คน ผู้จัดงานต้องขออนุญาต มีผลฉีดวัคซีนผู้ให้บริการครบทุกราย มีผลตรวจ ATK เป็นลบ 72 ชม.ก่อนเริ่มงาน รวมทั้งผู้ร่วมงานด้วย  แต่หากเป็นงานที่มีคนต่ำกว่า 1,000 คน ผู้จัดและผู้บริการก็ยังคงต้องฉีดวัคซีนครบ และผลตรวจ ATK ก่อน 72 ชม. แต่ผู้ร่วมงานของเพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามในแต่ละจังหวัดจะมีการประกาศมาตรการในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือเลี้ยงฉลองเป็นกลุ่มย่อย

พร้อมย้ำประการข้อกำหนด การอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารหรือสถานประกอบการ เฉพาะเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม ประกาศที่มีผลตั้งแต่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ผับบาร์ สถานบันเทิง ที่เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ถือว่าผิด ยังไม่สามารถเปิดและจำหน่ายได้


นอกจากนี้ ศบค.จะมีการลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อดูการจัดสถานที่เพื่อจัดงานปีใหม่  เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และหนองคาย  ที่จะลงพื้นที่ วันที่  24 ธันวาคมนี้ เพื่อดูมาตราการก่อนเปิดด่านชายแดนแห่งแรก  เพื่อเป็นต้นแบบนำร่องเปิดด่านชายแดนทางบกในจังหวัดอื่นๆ เช่น มุกดาหาร  นครพนม และอุบลราชธานี

ส่วนรายงานผู้เดินทางเข้าประเทศไทย (16 ธ.ค.) จำนวน 11,060 ราย พบผู้ติดเชื้อ 16 คน เมื่อรวมกับผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 1-16 ธันวาคม จำนวน 122,363 คน มีผู้ติดเชื้อ 226 คน เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน มีผู้เข้ามา 133,061 คน จะพบว่าในเดือนธันวาคมมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น  รายงานผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน  14 ราย  ที่เดินทางเข้าประเทศในโครงการ Test&Go ( ไม่ต้องกักตัว)

“แม้นักเดินทางที่เข้ามาในประเทศแบบไม่ต้องกักตัวจะพบว่ามี จำนวนผู้ติดเชื้อไม่สูง แต่เราต้องเตรียมรองรับกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในประเทศกิจกรรมและกิจการเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เราจะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ก็คงต้องเตรียมการเฝ้าระวังด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวว่า ในส่วนของประเทศที่เดินทางเข้ามาสูงสุด คือ เยอรมนี  สหราชอาณาจักร รัสเซีย ยูเออี ฝรั่งเศส สวีเดน  สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นอร์เวย์ และอิสราเอล  ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาเหล่านี้ได้มีการตรวจและผลเป็นลบ  แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทยก็พบผลเป็นบวกได้ ประกอบกับในหลายประเทศ มีท่าทีปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งต้องเน้นย้ำโรงแรมที่ให้บริการ ให้แจ้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาให้ปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไทยอย่างเคร่งครัด  ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยถือว่ามีความผิด สามารถที่จะปรับได้สูงถึง 20,000 บาท และสามารถปฏิเสธการให้บริการได้

ส่วนรายงานผู้ติดเชื้อโควิดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น  711,255 ราย    จะพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา  ซึ่งสอดคล้องกับการที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุในก่อนหน้านี้  ว่าแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง แต่เมื่อประชากรได้รับการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม อัตราการเสียชีวิตก็ยังคงน้อยอยู่   รวมทั้งรัสเซีย และเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงสุด จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา

สำหรับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก  ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาด  ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ และกำลังมีการตรวจสอบอีก 5 ราย   ขณะที่มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน รายที่สองเป็นเด็กอายุ 8 ปี ทำให้ทางการมาเลเซียประกาศเข้มงวดห้ามรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และออกมาตรการให้ประชาชนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และตรวจสอบผู้เกี่ยว ข้องกับสายพันธุ์โอไมครอนอีก 18 ราย   ส่วนเกาหลีใต้ก็มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิดรอบใหม่ เช่น ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่อนุญาตให้ใช้บริการร้านอาหารนอกบ้านร่วมกับบุคคลอื่น ภัตรคาร คาเฟ่ เปิดไม่เกิน 21.00 น. รายงานการฉีดวัคซีนในประเทศ ( 16 ธ.ค.) ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 416,336 โดส  รวมทั้งประเทศ เข็ม 1 จำนวน 50,314,980 ราย  เข็ม 2 จำนวน 43,974,460 ราย และเข็ม 3 จำนวน  4,567,313 ราย  พร้อมกำชับผู้ฉีดวัคซีนรับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หลังพบการจับกลุ่มเอกสารการฉีดวัคซีนปลอมที่จังหวัดอุดรธานี.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]