ไทยพบสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 17 ธ.ค. – ศบค.กำชับโรงแรมสถานบริการกำชับนักท่องเที่ยวต่างประเทศสวมหน้ากากอนามัย   ไทยยังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 14 ราย เตือนสถานประกอบการจะจัดงานปีใหม่เข้มมาตราการ  ส่วนผู้ติดเชื้อวันนี้ 3,537 ราย ตาย 41 คน ผับบาร์ สถานบันเทิง ยังไม่สามารถเปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้


 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  วันนี้(17 ธ.ค.)  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 3,338 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 182 ราย   ผู้ป่วยหายแล้ว 5,459 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 43,479 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22,257 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 21,222 ราย  อาการหนัก 972 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 254 ราย  และมีผู้เสียชีวิต 41 คน  เป็นชาย  21 ราย หญิง 20 ราย  คนไทย 39 คน เมียนมา 1 คน และอังกฤษ 1 คน  โดยผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 คน อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 6 คน  ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 คน  ทั้งนี้การเสียชีวิตยังพบว่าเป็นการสัมผัสและติดเชื้อจากคนในครอบครัว  โดยยอดการติดเชื้อ 10 อันดับแรกได้แก่   กทม.  578 ราย นครศรีธรรมราช 208 ราย ชลบุรี 166  ราย  สงขลา 137 ราย สมุทรปราการ 128 ราย สุราษฎร์ธานี 89 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย  พัทลุง 77 ราย ปัตตานี 74 ราย  และเชียงใหม่ 65 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับครัสเตอร์ที่มีการรายงานเข้ามา พบการติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดกระบี่ 137 ราย  เรือนจำกลางปัตตานี 36 ราย โรงงานและบริษัท ที่ปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรี  ส่วนที่ประจวบคีรีขันธ์ พบในห้างสรรพสินค้า ส่วนครัสเตอร์ ที่พบในตลาดมีหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง ลพบุรี อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช รวมทั้งพบในงานศพ ที่นราธิวาส และแม่ฮ่องสอน  ส่วนแคมป์คนงาน พบที่ กทม. ชลบุรี  และครัสเตอร์ ร้านหมูกะทะ เจตบางกะปิ กทม. 12 คน


ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก  ยังได้มีการหารือถึงการเดินทางกลับบ้านและการฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้อีกเน้นย้ำไปทางจังหวัดให้เฝ้าระวังและคัดกรองคนที่เดินทางกลับบ้าน เพราะหากคนเหล่านี้หากเดินทางกลับจากที่ทำงานซึ่งเป็นแคมป์คนงาน โรงงาน อาจจะมีการสัมผัสเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการ และเมื่อเดินทางกลับ หลังจากเทศกาลปีใหม่ มาทำงานก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นสถานประกอบการและโรงงานต้องมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับบ้านในข่วงเทศกาลปีใหม่   ในการรายงานในวันนี้มี 2 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ คือ จังหวัดอุตรดิตถ์และอำนาจเจริญ

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึง ข้อกำหนด มาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 40 ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ขอเน้นย้ำ หากมีการจัดงานที่มีคนมากกว่า 1,000 คน ผู้จัดงานต้องขออนุญาต มีผลฉีดวัคซีนผู้ให้บริการครบทุกราย มีผลตรวจ ATK เป็นลบ 72 ชม.ก่อนเริ่มงาน รวมทั้งผู้ร่วมงานด้วย  แต่หากเป็นงานที่มีคนต่ำกว่า 1,000 คน ผู้จัดและผู้บริการก็ยังคงต้องฉีดวัคซีนครบ และผลตรวจ ATK ก่อน 72 ชม. แต่ผู้ร่วมงานของเพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามในแต่ละจังหวัดจะมีการประกาศมาตรการในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือเลี้ยงฉลองเป็นกลุ่มย่อย

พร้อมย้ำประการข้อกำหนด การอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารหรือสถานประกอบการ เฉพาะเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม ประกาศที่มีผลตั้งแต่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ผับบาร์ สถานบันเทิง ที่เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ถือว่าผิด ยังไม่สามารถเปิดและจำหน่ายได้


นอกจากนี้ ศบค.จะมีการลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อดูการจัดสถานที่เพื่อจัดงานปีใหม่  เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และหนองคาย  ที่จะลงพื้นที่ วันที่  24 ธันวาคมนี้ เพื่อดูมาตราการก่อนเปิดด่านชายแดนแห่งแรก  เพื่อเป็นต้นแบบนำร่องเปิดด่านชายแดนทางบกในจังหวัดอื่นๆ เช่น มุกดาหาร  นครพนม และอุบลราชธานี

ส่วนรายงานผู้เดินทางเข้าประเทศไทย (16 ธ.ค.) จำนวน 11,060 ราย พบผู้ติดเชื้อ 16 คน เมื่อรวมกับผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 1-16 ธันวาคม จำนวน 122,363 คน มีผู้ติดเชื้อ 226 คน เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน มีผู้เข้ามา 133,061 คน จะพบว่าในเดือนธันวาคมมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น  รายงานผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน  14 ราย  ที่เดินทางเข้าประเทศในโครงการ Test&Go ( ไม่ต้องกักตัว)

“แม้นักเดินทางที่เข้ามาในประเทศแบบไม่ต้องกักตัวจะพบว่ามี จำนวนผู้ติดเชื้อไม่สูง แต่เราต้องเตรียมรองรับกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในประเทศกิจกรรมและกิจการเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่เราจะพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ก็คงต้องเตรียมการเฝ้าระวังด้วย” พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวว่า ในส่วนของประเทศที่เดินทางเข้ามาสูงสุด คือ เยอรมนี  สหราชอาณาจักร รัสเซีย ยูเออี ฝรั่งเศส สวีเดน  สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ นอร์เวย์ และอิสราเอล  ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาเหล่านี้ได้มีการตรวจและผลเป็นลบ  แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทยก็พบผลเป็นบวกได้ ประกอบกับในหลายประเทศ มีท่าทีปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งต้องเน้นย้ำโรงแรมที่ให้บริการ ให้แจ้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาให้ปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไทยอย่างเคร่งครัด  ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยถือว่ามีความผิด สามารถที่จะปรับได้สูงถึง 20,000 บาท และสามารถปฏิเสธการให้บริการได้

ส่วนรายงานผู้ติดเชื้อโควิดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น  711,255 ราย    จะพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา  ซึ่งสอดคล้องกับการที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุในก่อนหน้านี้  ว่าแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง แต่เมื่อประชากรได้รับการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม อัตราการเสียชีวิตก็ยังคงน้อยอยู่   รวมทั้งรัสเซีย และเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงสุด จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตา

สำหรับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรก  ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาด  ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ และกำลังมีการตรวจสอบอีก 5 ราย   ขณะที่มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน รายที่สองเป็นเด็กอายุ 8 ปี ทำให้ทางการมาเลเซียประกาศเข้มงวดห้ามรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และออกมาตรการให้ประชาชนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และตรวจสอบผู้เกี่ยว ข้องกับสายพันธุ์โอไมครอนอีก 18 ราย   ส่วนเกาหลีใต้ก็มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมโควิดรอบใหม่ เช่น ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่อนุญาตให้ใช้บริการร้านอาหารนอกบ้านร่วมกับบุคคลอื่น ภัตรคาร คาเฟ่ เปิดไม่เกิน 21.00 น. รายงานการฉีดวัคซีนในประเทศ ( 16 ธ.ค.) ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 416,336 โดส  รวมทั้งประเทศ เข็ม 1 จำนวน 50,314,980 ราย  เข็ม 2 จำนวน 43,974,460 ราย และเข็ม 3 จำนวน  4,567,313 ราย  พร้อมกำชับผู้ฉีดวัคซีนรับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หลังพบการจับกลุ่มเอกสารการฉีดวัคซีนปลอมที่จังหวัดอุดรธานี.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย