ลุยแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ ดัน “ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้”

กทม. 14 ธ.ค.- กมธ. วุฒิสภาฯ เดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ดัน “ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้” เทียบชั้น EEC เชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเข้าด้วยกัน

เมื่อวันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2564 เวลา 8.00 น. ณ จุดแถลงข่าววุฒิสภา ชั้น 1 อาคารรัฐสภา สว.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำและคณะกรรมมาธิการฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อผลักดัน “ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคใต้” หรือ Southern Economic Corridor: SEC โดยมีจุดมุ่งหมายหลักในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ


สว.สถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กล่าวว่า ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีข้างหน้านี้ ศูนย์กลางการเจริญเติบโตของโลกจะย้ายมาอยู่ที่ทวีปเอเชีย โดยมีประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่าง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก และประเทศอินเดีย เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียใต้ ภาคใต้ของไทยมีภูมิเศรษฐศาสตร์ที่มีความได้เปรียบเป็นอย่างมากในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ และยังมีความพร้อมสูงในการพัฒนาเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (New Engine of Growth) เพราะหากไม่นับ กทม. และปริมณฑลแล้ว ภาคใต้ถือว่ามีโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีความเพรียบพร้อมมากที่สุด ทั้งสนามบิน ท่าเรือ ถนนสายเอเชียและทางรถไฟที่เชื่อมโยงไปจนถึงประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาการขนส่งทางรางในจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนองเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์ของฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันเข้าด้วยกันอีกด้วย

ในส่วนของแนวทางในการพัฒนา “เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้” นายสถิตย์ฯ กล่าวว่า ควรมุ่งเน้นไปใน 3 ด้านแบบเกื้อกูลกัน และที่สำคัญต้องมีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal: SDG) ที่ทั่วโลกยึดเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาประเทศ ดังนี้


• ด้านอุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการผลิตสินค้าเกษตรชั้นปฐมภูมิซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่ภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการ
• ด้านระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทั้งทางถนน ทางราง ทางเรือ และทางอากาศ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคการขนส่งสินค้าและภาคการท่องเที่ยวได้ในเวลาเดียวกัน
• ด้านการท่องเที่ยว ทั้งที่พักแรมและร้านอาหาร และการคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากมีเม็ดเงินหมุนเวียน และเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่

นายสถิตย์ฯ ได้กล่าวปิดท้ายว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ดังนั้น การพัฒนา “เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor: SEC)” ขึ้นมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันกับ “ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)” นั้น จะช่วยให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมมีการขยายตัวอย่างทั่วถึงและยั่งยืน FACT ABOUT “SEC”

• ภาคใต้มีสัดส่วน GDP ร้อยละ 8.7 ของ GDP ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ รองจาก กทม. และปริมณฑ, ภาคตะวันออก และภาคอีสาน แต่ภาคใต้กลับเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการขยายตัวของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศซึ่งมีอัตราขยายตัวเพียงร้อยละ 2.3 เท่านั้น
• ภาคใต้มีอัตราการชยายตัวของ “ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคต่อจำนวนประชากร (GDP per Capita)” สูงที่สุดในประเทศ ที่อัตราร้อยละ 4 ต่อปี
• “ผลิตภัณฑ์มวลรวมของภูมิภาค (GRP)” ในสาขาเศรษฐกิจต่างๆ ของภาคใต้เปรียบเทียบกับ GDP ของประเทศในสาขาเดียวกัน มีดังนี้
สาขาเศรษฐกิจ อัตราส่วนของ GRP ของภาคใต้ ต่อ GDP ประเทศ (%)


หมายเหตุ เกษตรกรรม29สูงที่สุดในประเทศขนส่ง10อันดับ 2 ร่วมของประเทศ(เป็นรอง กทม. และปริมณฑล และเท่ากับภาคตะวันออก)ที่พักแรมและร้านอาหาร24อันดับ 2 ของประเทศ(เป็นรอง กทม. และปริมณฑล) โดยการแถลงข่าวครั้งนี้มี สมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมการหลายท่าน

  1. สว.สังศิต พิริยะรังสรรค์​​ประธานคณะกรรมาธิการ
  2. สว.อำพล จินดาวัฒนะ​​รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง
  3. สว.พลเดช ปิ่นประทีป​​รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง
  4. สว.ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ​รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่
  5. สว.อภิชาติ โตดิลกเวชช์​​รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า
  6. สว.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์​​ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว