ศบค.ให้กินเหล้าเคาท์ดาวน์ไม่เกินตี 1

ทำเนียบรัฐบาล 13 ธค.-ที่ประชุม ศบค.ปรับลดพื้นที่เหลือเฉพาะส้ม – เหลือง อนุญาตให้ดื่มสุราในคืนเคาท์ดาวน์ ไม่เกินตี 1 วันที่ 1 ม.ค.65 เตรียมจัดหาวัคซีนเพิ่ม 120 ล้านโดสในปีหน้า


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(13 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 3.398 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,143,181 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,467 ราย รวมหายป่วยแล้ว 2,073,900 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 49,524 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,061 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 307 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 13 ธันวาคม 2564 โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 3,398 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 3,376 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 3,368 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 8 ราย จากเรือนจำ 2 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 20 ราย

“แนวโน้มสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกคน โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ หลังจากไม่ได้จัดมา 2 ปี ผอ.ศบค.ขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อจะกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ส่วนยอดเสียชีวิตวันนี้เพิ่ม  23 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 21,100 คน อัตราการครองเตียงของผู้ป่วย และการเสียชีวิต ลดลงอย่างต่อเนื่อง” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการให้บริการวัคซีน มีผู้ได้รับวัคซีนสะสม 97.4 ล้านโด๊ส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 49.9 ล้านราย เข็มที่ 2 สะสม 43.3 ล้านราย เข็มที่ 3 สะสม 4.1 ล้านราย ขณะนี้มีวัคซีนจำนวนมากพร้อมจะฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เพราะเชื้อโอไมครอนกระจายไปในหลายพื้นที่ การกระตุ้นเข็มที่ 3 จะช่วยลดอาการรุนแรง และการเสียชีวิตลงได้ โดยแนวทางกระตุ้นเข็มที่ 3 ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน ให้มากระตุ้นเข็มที่ 3 ภายในเดือนธันวาคมนี้

“เป้าหมายการให้บริการวัคซีนโควิด -19 ในปี 2565 ประชากรในประเทศไทยทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนเพียงพอ ครอบคลุมร้อยละ 80 โดยกรมควบคุมโรคได้รับอนุมัติจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 120 ล้านโดสในปี 2565 ส่วนวัคซีนเข็มที่ 4 อยู่ระหว่างรอการพิจารณาเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งจะต้องลงนามก่อนสั่งซื้อ ให้มีวัคซีนที่ทันสมัยสามารถป้องกันการแพร่เชื้อในกลุ่มสายพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ความครอบคลุมการรับวัคซีนก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 71.9 ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะเสนอที่ประชุมพิจารณาผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ โดยที่ประชุมปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งจะมีผลวันที่ 16 ธันวาคมนี้ โดยไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) และพื้นที่ควบคุมสูงสุด(สีแดง) โดยพื้นที่ควบคุม(สีส้ม) จะเพิ่มเป็น 39 จังหวัด จาก 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 30 จังหวัด จาก 24 จังหวัด พื้นที่สีฟ้า นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด จากเดิม 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต ส่วนวันที่ 1 มกราคม 2565 จะมีพื้นที่สีฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 5 จังหวัด รวมเป็น 31 จังหวัด ได้แก่ ตราด(เพิ่ม อ.คลองใหญ่) สระแก้ว มุกดาหาร บึงกาฬ นครพนม อุบลราชธานี


“สำหรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักร มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ รวม 87,383 คน พบผู้ติดเชื้อรวม 152 คน คิดเป็นร้อยละ 0.17 ทำให้มีความมั่นใจในมาตรการป้องกันโรค ศบค.จึงมีมติให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามากรณีได้รับวัคซีนครบให้คงระยะเวลากักตัวที่ 7 วัน ส่วนการตรวจหาเชื้อสำหรับ test and go และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวให้ใช้วิธี RT PCR ตามเดิม” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการแบ่งกลุ่มประเทศ เงื่อนไขและมาตรการเข้าราชอาณาจักร การจัดกลุ่มบุคคล แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ test and go,sandbox,กักตัว,ผู้ขนส่งสินค้าทางบก ทางเรือ ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ ผู้มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ การแบ่งกลุ่มประเทศ 4 กลุ่ม ได้แก่ test and go,กลุ่มทุกประเทศ,กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ,กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง อ้างอิงตามการกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน

“ที่ประชุมศบค.เห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 การจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ พื้นที่ควบคุม(สีส้ม) พื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว สามารถเปิดบริการและบริโภคสุราในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64 ไม่เกินเวลา 01.00 ของวันที่ 1 ม.ค. 65 เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น และต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่สาธารณสุขกำหนด (COVID Free Setting)” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการสำหรับการจัดงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป โดยผู้จัดงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ต้องลงทะเบียนและประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2Plus (TSC 2+) ควบคุมกำกับให้พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) พร้อมยกระดับ COVID Free Customer และ COVID Free Environment  ผู้เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มและมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK และดำเนินมาตรการตามที่กำหนด อาทิ กำหนดช่องทางเข้า-ออกจุดเดียว มีระบบคิวให้ควบคุมได้ ต้องATK ก่อนจัดงานภายใน 72 ชั่วโมง จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 1 คนต่อ 4 ตร.ม. ติดป้ายแสดงจำนวน  ตรวจคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าล่วงหน้าหรือหน้างาน โดยจัดจุดให้บริการให้เห็นชัดเจน

“ส่วนการจัดงานที่มีผู้ร่วมงานต่ำกว่า 1,000 คน ให้ดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้แล้ว เช่นกัน  เช่นกำหนดช่องทางเข้า-ออกจากงาน จุดเดียว และมีระบบคิว ให้สามารถควบคุมได้  ต้องตรวจ ATK ก่อนจัดงานภายใน 72 ชั่วโมง จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 1 คนต่อ 4 ตร.ม. และติดป้ายแสดงจำนวน เป็นต้น” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.รับทราบกิจกรรมปีใหม่ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท .) เสนอจัดในทุกภูมิภาคจำนวน 5 จังหวัด โดยมีพื้นที่จัดงานหลักได้แก่ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา หาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง วัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยธยา หาดปลายแหลมสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ยังจัดงานในพื้นที่อื่น ๆ ภาคเหนือ 13 จังหวัด ภาคกลาง 8 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัดภาคตะวันออก 3 จังหวัดภาคใต้ 8 จังหวัดรวม 44 จังหวัดด้วย

“ขณะที่กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ส่วนกลางจัดที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลา 22.30 น. กิจกรรมประกอบด้วย เจริญจิตตภาวนาและสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า วัดอรุณราชวราราม วันที่ 31 ธ.ค. 64 เวลา 23.30 น. กิจกรรมประกอบด้วย เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า วันที่ 1 ม.ค. 65 เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตรรับปีใหม่ ส่วนภูมิภาค สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง กิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นใน 3 ภูมิภาค ภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี และภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งเสริมบูรณาการความร่วมมือทางศาสนา ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวในมิติศาสนา”  โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]