fbpx

“ชัยชนะ” ชี้เรื่องการพนันต้องปฏิรูปทุกมิติ-สร้างสมดุล

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – “ชัยชนะ” เผยเรื่องการพนันจะต้องมีการปฏิรูปในทุกมิติ ชี้ทุกวันนี้ไม่ไปบ่อนก็เล่นพนันได้ รวมทั้ง พ.ร.บ.การพนัน ล้าสมัย ไม่ทันต่อสภาพสังคมและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รับต้องมีความสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของชาติกับศีลธรรมของประชาชน ที่สุดแล้วหากต้องมีการตัดสินใจสร้าง Entertainment Complex ก็ต้องให้มีการออกเสียงประชามติ


นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ในรูปแบบ Entertainment Complex เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ กล่าวถึงการทำงานของคณะ กมธ.วิสามัญฯ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและศึกษาเกี่ยวกับการพนันว่า ตนมองว่าขณะนี้เรื่องการพนันมีความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปในทุกมิติ เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและรูปแบบของการพนัน ทำให้ประชาชนทุกวันนี้ไม่จำเป็นจะต้องไปบ่อนการพนัน แต่สามารถทำให้รายได้หายไปในพริบตา เพราะการพนันออนไลน์ในหลายล้านเว็บไซต์จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ ว่า ประชาชนและเยาวชนจำนวนหนึ่งต้องตกเป็นเหยื่อของการพนันออนไลน์ ซึ่งจำเป็นจะต้องหามาตรการป้องกัน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

ในส่วนของกฎหมายที่ควบคุมดูแลเกี่ยวกับการพนันโดยตรงก็คือ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมล่าสุด พ.ศ. 2505 นั้น ได้ล้าสมัยและไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี รวมทั้งยังไม่มีบทบัญญัติที่เหมาะสมในการแบ่งปันผลประโยชน์หรือจัดเก็บภาษีให้กับประเทศและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด- 19 ซึ่งรัฐบาลได้มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินเพื่อนำมาดูแลประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์ผ่านพ้นไป ก็จะต้องหาวิธีการนำเงินมาชดใช้คืน เพื่อรักษาสมดุลทางการเงินของประเทศ ดังนั้น วิธีการเปิดสถานบริการในรูปแบบ Entertainment Complex ที่ภาครัฐเข้าไปควบคุมดูแลเหมือนกับในหลายๆ ประเทศนั้น ก็ถือเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการหารายได้เข้าประเทศ ในสถานการณ์ที่ต้องการหารายได้อย่างรวดเร็วในการฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะได้มีการหารือกันในชั้น กมธ.ต่อไป


“ผมมีข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการเรื่องการพนัน โดยผมคิดว่า ในขั้นแรกจะต้องมีการควบคุมกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐ ซึ่งอาจจะใช้หน่วยงานที่มีอยู่แล้ว เช่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในการวางกฎเกณฑ์และวิธีการขอใบอนุญาตการเล่นการพนัน โดยให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ก็สามารถวางพิกัดอัตราภาษีได้ เพราะสถานบริการแบบ Entertainment Complex นั้น เข้าข่ายเป็นบริการที่มีความฟุ่มเฟือย และสร้างผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยของประชาชน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะต้องมีมาตรการและวางหลักเกณฑ์ในการเปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพนัน หรือควบคุมไม่ให้มีการส่งลิงก์ที่เกี่ยวข้องในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชน ต่อมาจะต้องกำหนดสัดส่วนการลงทุนในการจัดสร้างสถานที่ที่เหมาะสมในการเกิดสถานบริการรูปแบบดังกล่าว โดยอาจจะให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด และแบ่งสัดส่วนผลประโยชน์ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับเป็นสำคัญ อย่างเช่น ผลกำไรจากการประกอบกิจการ จะต้องแบ่งออกเป็นผลประโยชน์เข้าภาครัฐเป็นจำนวนร้อยละ 49 และสัดส่วนร้อยละ 51 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ จากนั้นจะต้องกำหนดคุณสมบัติสำหรับผู้เข้าใช้บริการ โดยพื้นฐานจะมีการจำกัดอายุผู้เล่น กำหนดรายได้ที่เหมาะสม จำกัดเวลาการเล่น รวมทั้งวางกฎระเบียบเพื่อควบคุมไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายแรง หากเข้าไปใช้บริการ ทั้งนี้ ผมอยากให้มีการทดลองในพื้นที่ที่มีศักยภาพความเป็นเมืองและการท่องเที่ยวสูง โดยอาจจะแบ่งเป็นภาคละ 3 แห่ง และมีการประเมินกิจการในทุกๆ 3 เดือน ในส่วนของการพนันที่เกี่ยวข้องกับวิถีชาวบ้านและงานมหรสพต่างๆ นั้น ก็จะต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนถึงกฎเกณฑ์ในการขอใบอนุญาต รูปแบบการเล่น และจำนวนคนที่เข้าร่วม ซึ่งผมคิดว่า การตั้ง Entertainment Complex ภายในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นการลดปัญหาการนำเงินไหลออกนอกประเทศ และเป็นการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโรงแรมที่พัก ให้กลับมาคึกคัก และมีเงินหมุนเวียนภายในประเทศอีกเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้จะต้องฟังเสียงประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงอีกด้วย” นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการตั้ง กมธ.วิสามัญในเรื่องดังกล่าวนี้ ก็มีเสียงสะท้อนอย่างหลากหลาย โดยแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นที่ตั้งอยู่บนความปรารถนาดีของประเทศ ทั้งฝ่ายสนับสนุนที่ต้องการเอาสิ่งที่ผิดกฎหมายและศีลธรรม นำมาเป็นผลประโยชน์ให้กับประเทศ เหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาล และฝ่ายคัดค้านที่มองว่าจะเป็นการมอมเมาและสร้างทัศนคติที่ไม่ดีต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ดังนั้น การทำงานของคณะ กมธ.วิสามัญคณะนี้ จึงจะต้องมีความละเอียดรอบคอบในการทำงาน โดยจำเป็นจะต้องมีการเชิญแต่ละฝ่ายมาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นว่าจะเดินหน้ากันอย่างไร เพราะจะต้องมีการชั่งน้ำหนักถึงข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบ หากมีการดำเนินการเปิด Entertainment Complex ไปแล้ว โดยท้ายที่สุด หากจำเป็นจะต้องตัดสินใจจริงๆ แล้ว ตนก็เห็นว่ากรณีแบบนี้ ถือว่าเข้าข่ายตามมาตรา 166 ของรัฐธรรมนูญฯ และมาตรา 9 วรรคสอง (4) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ซึ่งจะต้องให้ประชาชนทั้งประเทศตัดสินใจว่า จะให้มีการเกิด Entertainment Complex หรือไม่อีกด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย