จ.สุพรรณบุรี 9 ธ.ค.-นายกฯ เยือนสุพรรณฯ มอบเงินประกันรายได้ช่วยเหลือเกษตรกร ยืนยันเร่งช่วยเกษตรกร ขอร้องอย่าฟังข้อมูลบิดเบือน ขณะที่ รมต.-ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา นำประชาชน ต้อนรับคึกคัก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่มอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนาน ปีการผลิต 2564/65 ณ ตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยมี ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา เจ้าของพื้นที่มารอต้อนรับอย่างพร้อมเพียง นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นำทีมส.ส.ของพรรคในพื้นที่ ประกอบด้วย นายนพดล มาตรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสรชัด สุจิตต์ ส.ส.เขต 1 สุพรรณบุรี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.เขต 2 สุพรรณบุรี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.เขต 4 สุพรรณบุรี
โดยนายประภัตร สวมเสื้อยืดสีขาว สกรีนรูปนายกรัฐมนตรีและข้อความ “เรารักลุงตู่” และด้านหลังมีข้อความ”เราไม่เคยลืมกัน” ดูแลและเตรียมความพร้อมให้กับประชาชน กว่า 3,000 คน ที่มารอต้อนรับ ซึ่งมีประชาชนบางส่วนพร้อมใจกันสวมเสื้อยืด”เรารักลุงตู่”ด้วย โดยนายประภัตร ย้ำกับชาวบ้านตลอดเวลาว่านายกรัฐมนตรี เป็นคนใจดี สามารถขอถ่ายรูปเซลฟี่ได้ นอกจากนี้มีรายงานว่า ทันทีที่นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการจะลงพื้นที่จ.สุพรรณบุรี นายประภัตร ในฐานะส.ส.ในพื้นที่ ได้ใช้เวลาเตรียมความพร้อมภายในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง ได้กล่าวทักทายพูดคุยกับประชาชนอย่าง อารมณ์ดี โดยประชาชนได้ตะโกนต้อนรับว่า เรารักลุงตู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ามีความตั้งใจที่มาสุพรรณบุรี และสิ่งแรกที่นึกถึง คือเพลง “เลือดสุพรรณ” พร้อมระบุว่า คนที่แต่งเพลงนี้คือหลวงวิจิตรวาทการ ซึ่งแม้ตนไม่ได้เกิดที่สุพรรณบุรี แต่เป็นคนไทยและเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ยินดีที่มามอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนานของปีการผลิตปี 64/65 เพื่อเป็นการนำร่องให้พี่น้องเกษตรกร และมีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกร เพราะถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ รู้ถึงความยากลำบากในความเพียรพยายามทำงาน กว่าจะได้ผลผลิตมาแต่ละอย่าง อย่างไรก็ตาม
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคเกษตร เพราะเป็นภาคการผลิตที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คืออยากให้ประชาชนมีความมั่นคงทางรายได้ ผมพยายามทำให้ดีที่สุดทุกเรื่อง เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีหลายมาตรการ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงและพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติ เพื่อให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เบื้องต้นประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด เพราะมีความผันผวน จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเดือดร้อน และผลักดันการยกระดับคุณภาพข้าวไทย อาทิ ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ทำการเกษตรมากขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นการเกษตรแนวใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีมาช่วยการผลิต การปลูกข้าวปลอดภัย การทำสมาร์ทฟาร์มเมอร์
ทั้งนี้ได้หารือกับ ธกส. ว่าจะหาตลาดกลางได้เพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้มีการขายสินค้าที่เป็นธรรม สิ่งสำคัญคือความั่นคงทางตลาด เพราะหลายประเทศมีการแข่งขันข้าวกับไทย ซึ่งเราไปแข่งยาก เพราะราคาสูง จึงต้องหาทางลดต้นทุนการผลิตให้ได้ เพื่อให้มีกำไร ส่วนการแปรรูปข้าว ได้สั่งการให้มีการวิจัยแปรรูปข้าว เช่นทำเครื่องสำอาง เพื่อเพิ่มมูลค่าของข้าวและอยากให้ทำการตลาดในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้คนที่บริโภคข้าวได้เข้าถึง เพราะเมื่อข้าวไปผ่านกระบวนการทางพาณิชย์ทำให้มีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ที่มีรายได้น้อยเข้าไม่ถึง จึงอยากให้มีการขายข้าวในชุมชนหรือสีข้าวเอง ทั้งนี้ ตนไม่ได้แบ่งแยกคนรวยหรือคนจน แต่ต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ขออย่าไปบิดเบือนสิ่งที่ตนพูด อีกทั้ง รัฐบาลส่งเสริมการผลิตอย่างครบวงจร หากสามารถสร้างความเข้มแข็งได้ ก็จะมีความมั่นคงและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีระบุว่าการลงมาในพื้นที่วันนี้มีความสุข รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน วันนี้ยินดีที่ได้มาพบเห็นบ้านเมืองสะอาด ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดขอบคุณ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ผมเป็นนายกรัฐมนตรีมาได้ทุกจังหวัด ทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล เพราะผมมาดูแลประเทศไทย นี่คือแผ่นดินของเรา เราต้องปรับใจไม่สู้เมื่อไหร่ท้อ กำลังใจก็จะตกไปเรื่อย ใจไปร่างกายก็ป่วย ลองคิดอย่างนี้ ขณะที่ตนต้องระวังอย่าให้ใจป่วย ไม่เช่นนั้นกายจะป่วยไปด้วย และจะทำอะไรต่อไปเพื่อประชาชนไม่ได้ ใจ” นายกรัฐมนตรี กล่าว จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการต่างๆที่มาจัดแสดง พร้อมถ่ายรูปร่วมกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ พร้อมบอกประชาชนว่า จากนี้จะดูแลเกษตรกรให้มากกว่านี้ ก่อนจะเดินทางไปที่บ้านเรือนไทยของ นายประภัตร เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร.-สำนักข่าวไทย
