fbpx

ขอปชช.ร่วมมือช่วยลด PM 2.5

กรุงเทพฯ 8 ธ.ค.-ปลัดสำนักนายกฯ ลงพื้นที่จุดตรวจจับรถควันดำ ขอประชาชนร่วมมือตรวจเช็คสภาพรถ ลดเผาที่โล่ง แก้ปัญหา PM 2.5


นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำ บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงทั่วประเทศ ทำให้อากาศค่อนข้างนิ่ง ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 และสาเหตุส่วนใหญ่มาจากยานพาหนะ รวมถึงการเผาในที่โล่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหา

“ภาพรวมมลพิษอากาศในวันนี้ ที่ภาคเหนือ น่าเป็นห่วงในบางพื้นที่ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ยังมีคุณภาพอากาศที่ดี แต่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเริ่มน่าเป็นห่วง เนื่องจากอากาศปิดและลมนิ่งสงบ ซึ่งในช่วง 1-2 วันนี้ พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ลดการใช้ยานพาหนะ” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


นายธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ทำในหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจจับรถควันดำ เป็นการทำงานร่วมกันกับกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตรวจภาพรวมทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ได้ตรวจไปแล้ว 80,000 กว่าคัน และพบว่ามี 18,000 กว่าคันที่เกินมาตรฐาน ซึ่งห้ามใช้ไปแล้ว 213 คัน

“เป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดตามนโยบายของรัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจควันดำตามถนนสายหลักหลายสาย และจะมีโครงการตรวจจุดจอดรถบรรทุกตามสี่มุมเมืองและปริมณฑล เพื่อให้ประชาชนตระหนักว่าการใช้รถควันดำส่งผลต่อสุขภาพได้ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ตรวจเช็ครถยนต์อย่างสม่ำเสมอ” นายธีรภัทร กล่าว

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมทำงานกับหลายหน่วยงานแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และจะเปิดศูนย์ส่วนหน้าที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้(9 ธ.ค.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลดการเผาในที่โล่ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งที่สำคัญคือการได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนลดมลพิษทางอากาศให้มากที่สุด ไม่ว่าจากการเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว