“นิพนธ์”เชื่อสร้างนิคม สร้างอาชีพให้คนจะนะ  

ทำเนียบรัฐบาล 7 ธ.ค.-“นิพนธ์” รับหนุนสร้างนิคม เชื่อสร้างงานให้คนในพื้นที่มีรายได้ ชี้พื้นที่เป็นดินทราย ปลูกได้แต่แตงโม ท้าสำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วย ส่วนน้อยไม่พยายามเข้าใจ


นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ว่า โครงการนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกฎหมายระบุว่าจะต้องให้ทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ก่อน ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว

“โครงการนี้มีอยู่ 2 มุม คือ ถ้ากังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ต้องไปดูเรื่องสิ่งแวดล้อมและสร้างหลักประกันให้เกิดขึ้น แต่หากบอกว่าพื้นที่นี้ทำอะไรไม่ได้เลยจะต้องมาพิจารณาเหมือนกับการลงทุนทั่วไป ถ้าเอกชนสนใจจะลงทุนก็ต้องไปพิจารณาว่าเขาพร้อมทำตามกฎหมายหรือไม่ หากกฎหมายให้ทำ EIA หรือให้ทำEHIA ต้องทำให้ครบถ้วน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


เมื่อถามว่า ในฐานะคนพื้นที่จะพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปล่อยไปตามขั้นตอน แม้ว่าตนจะเป็นคนในพื้นที่นั้นก็ตาม ขอให้ไปฟังคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ ส่วนกรณีที่มีกลุ่มคนมาคัดค้านที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ต้องขอให้พิจารณาว่าโครงการจะต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายอย่างไร เพราะกฎหมายกำหนดไว้แล้วว่ากรณีไหนต้องทำ EIA กรณีไหนต้องทำ EHIA ต้องดำเนินการตามที่กฎหมายบังคับใช้ ความจริงเรื่องนี้พูดคุยกันมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ประมาณปี 59 ก่อนที่รัฐบาลนี้จะมาเสียอีก

ส่วนกรณีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวมาเรียกร้องอยู่หน้าทำเนียบฯ และกล่าวหาว่านายนิพนธ์เป็นผู้รวบรวมโฉนดให้กับนายทุน นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องที่ดิน หากเอกชนเขาสนใจก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการเหมือนกับเรื่องทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อรวบรวมที่ดินแล้วต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่านายนิพนธ์มีส่วนรวบรวมที่ดินตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า หลายคนที่ไปรวบรวมเป็นสิทธิของเขา เพราะการรวบรวมที่ดินไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าจะทำโรงงานแล้วไม่ทำตามขั้นตอนกฎหมายถือเป็นประเด็น ส่วนที่กล่าวหาตนว่าเป็นคนรวบรวมที่ดิน หากเขาถามตนว่าเห็นด้วยกับโครงการนี้หรือไม่ ตนเห็นด้วยที่จะเข้าไปทำตรงที่ดินนั้น เนื่องจากที่ดินอ.จะนะ เป็นที่ดินที่ปลูกอะไรลำบาก เพราะเป็นพื้นทราย


เมื่อถามว่าแสดงว่านายนิพนธ์เห็นด้วยกับโครงการนี้จึงรวบรวมที่ดินให้กับเอกชน นายนิพนธ์ กล่าวว่า ใช่ เบื้องต้นเขาถามตนว่าทำได้หรือไม่ ก็บอกว่าทำได้ แต่การจะอนุญาตหรือไม่ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตอนนั้นตนยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี อยู่ในตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่รัฐมนตรี ซึ่งโครงการนี้เริ่มคิดมาตั้งแต่ปี 59

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ไปรวบรวมที่ดิน เพราะต้องการเห็นอ.จะนะ พัฒนาอย่างไร นายนิพนธ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับพื้นที่อ.จะนะจะเกิดการจ้างงานขึ้น ต้องยอมรับว่าพื้นที่อ.จะนะเป็นพื้นที่ความมั่นคงเป็นพื้นที่ 4 อำเภอของจ.สงขลาที่ระบุว่าใครจะไปลงทุนแล้วจะได้สิทธิพิเศษ เพราะต้องการหาคนไปลงทุนให้มาก เนื่องจากมีระเบิดและมีกิจกรรมที่ไม่ปลอดภัยอยู่

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เอกชนเขาสนใจโครงการนี้มานานแล้วตั้งแต่ปี 36 และ37 และแนวทางการศึกษาของสำนักงานสภาพัฒนาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่จะทำท่าเรือน้ำลึก เหมาะสมด้วยกายภาพทางภูมิศาสตร์ ส่วนการไปรวบรวมโฉนดที่ดินมันไม่ผิดกฎหมาย ใครจะรวบรวมก็ได้ ตนรู้ว่าใครไปรวบรวมอยู่  ซึ่งเอกชนถ้าใครรวบรวมมาส่งเขาก็เอา ส่วนที่มีข่าวว่าตนไปกดดันนั้น มองว่าเป็นเงื่อนไขที่เชื่อมโยงให้เป็นประเด็นการเมือง ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมที่จะมีโครงการหรือไม่ เรารู้กันอยู่ว่าโครงการพัฒนาต่าง ๆ ก็มีทั้งได้และลบ แต่จะทำอย่างไรให้ลบน้อยที่สุด นี่คือหลักการพัฒนา

“การส่งเสริมให้คนไปลงทุนโดยการให้สิทธิพิเศษ เอกชนก็อยากไปลงทุน ชาวบ้านจะได้มีงานทำ โครงสร้างนั้น ผมเห็นด้วย และที่เห็นได้ชัดคือ จังหวัดชายแดนภาคใต้เราแก้ปัญหาได้แล้ว ทั้งการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน ความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ขณะนี้เหลือปัญหาเดียวคือ ความยากจนของประชาชน ฉะนั้น การทำให้คนในพื้นที่มีงานทำ ผมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ศึกษากันมานานกว่า 20 ปี” นายนิพนธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า มีการกล่าวหาว่าเป็นนายหน้าค้าที่ดิน นายนิพนธ์ กล่าวว่า เขาก็ทำกันหมด ไม่ได้เกี่ยวกับโครงการผิดหรือถูก ส่วนนายหน้าค้าที่ดินนั้น มีกฎหมายรองรับ มีเรื่องค่านายหน้า แต่ตนไม่ได้เป็นนายหน้า ไม่ได้มีอาชีพนายหน้า แต่ถ้าใครจะซื้อ ตนก็ติดต่อให้เขาไปรู้จักกัน คุยกันเอง ไม่ปฏิเสธว่ามีคนรู้จักมาพูดคุย เพราะรู้จักคนจำนวนมาก เพราะที่อ.จะนะคือ บ้านตน ตนเกิดที่ อ.นาทับ เรียนหนังสือและโตที่นั่น แต่ไม่ได้ไปสั่งการให้ไปดำเนินการ ตนรู้จักคนที่นั่น รู้จักที่ดิน ที่ดินที่นั่นใช้ปลูกแตงโมเป็นส่วนใหญ่เพราะปลูกอย่างอื่นไม่ได้

เมื่อถามว่าประโยชน์ที่ได้รับมากกว่าใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่สนับสนุน ลูกหลานเรียนจบมาตอนนี้ขึ้นมาทำงานกันที่กทม. ภาคตะวันออก เพราะในพื้นที่ไม่มีการลงทุน ไม่มีการจ้างงาน แทนที่คนกลุ่มนี้จะอยู่ในพื้นที่เพื่อพัฒนา แต่ไม่มีโอกาส ศอ.บต.จึงคิดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้มีงานทำ

“ต้องพูดคุยกัน ในพื้นที่เขาทำกันอยู่ ผมเป็นคนอ.จะนะ รู้ว่าในพื้นที่คุยกันอยู่ แต่จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่พูดอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ แล้วจะทำอย่างไร ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพูดหลายรอบแล้วว่าสนับสนุนให้เดินหน้า แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งอะไรนอกเหนือจากนี้ กระบวนการยังดำเนินไปตามกฎหมาย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เนื้อหาของโครงการบอกไว้หมดว่ามีประโยชน์อย่างไร อธิบายได้ แต่ถ้าไม่พยายามรับฟังมันก็ยาก การจะมีคนเข้าไปสร้างงานให้เกิดขึ้น นี่คือประเด็นใหญ่ที่ชาวบ้านต้องการ แต่ยอมรับว่ามีส่วนหนึ่งที่ต้องการทำประมงต่อ อันนี้ก็เคารพ เพราะตนก็มาจากครอบครัวชาวประมง แต่ไม่ใช่ว่าลูกหลานจบมาแล้วทุกคนต้องไปทำประมง อาจมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าก็ได้

“เรื่องเห็นด้วยไม่เฉพาะผม แต่ไปถามดูได้ว่ามีหลายคนเห็นด้วยหรือไม่ เพียงแต่เขาไม่อยากมาพูดให้ขัดแย้งกัน ถ้าไปสำรวจสอบถามเชื่อว่า 80-90% เห็นด้วย คนที่มาคัดค้านนี้เป็นส่วนน้อย ลองไปติดตามดูในพื้นที่ได้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ส่งลูกให้เรียนสูง ๆ เขาอยากให้ลูกมีงานทำในพื้นที่ อย่าว่าแต่ทำนิคมอุตสาหกรรมเลย ปลูกมะม่วงหิมพานต์ยังปลูกไม่ขึ้น ไปดูพื้นที่จริงได้ ปลูกปาล์มก็ไม่ต้องไปปลูก เพราะมันเป็นทราย ปลูกยางพาราก็ไม่รู้จะมีน้ำยางหรือเปล่า” นายนิพนธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย