ทำเนียบ 3 ธ.ค.- นายกฯ เดินหน้าพลิกโฉมประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง คลาวด์เซอร์วิสเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 5/2564 ว่า เป้าหมายในการพลิกโฉมประเทศไทย คือ การทำให้รายได้ประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยที่ประชุมได้รายงานว่า การเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 2564 นี้ GDP สามารถกลับมาเติบโตเป็นบวกที่ร้อยละ 1.2 เนื่องจากไตรมาส 3 มีการติดลบน้อยกว่าที่ประมาณการณ์ เป็นผลมาจากความสามารถในการส่งออกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในโครงการต่างๆ ทั้งมาตรการคนละครึ่ง มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การส่งเสริมการลงทุนปัจจุบันนี้ ต้องมีมาตรการดึงดูดเพิ่มเติมมากกว่าสิทธิประโยชน์การลงทุนหรือมาตรการภาษี และต้องช่วยกันคิดพิจารณาให้เหมาะสม ขณะเดียวกันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนกิจการคลาวด์เซอร์วิส และ Data Center เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัลประเทศไทย โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยเฉพาะด้านพลังงาน เนื่องจากอุตสาหกรรมแห่งอนาคตจำเป็นต้องมีระบบไฟฟ้าเสถียรภาพ รวมทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียน
ขณะเดียวกันก็เร่งจัดระบบนิเวศที่เหมาะสม ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบที่ล้าสมัย แนวทางภาษี เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ของไทย ที่รัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญกับเยาวชนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ โดยมองว่า การลงทุนในเยาวชน คือ การลงทุนเพื่ออนาคตประเทศ.-สำนักข่าวไทย