นายกฯ สั่งผลักดันท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ทำเนียบรัฐบาล  30 พ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ สั่งผลักดันการท่องเที่ยว Wellness Tourism และ Medical Tourism รองรับการท่องเที่ยวในยุคโควิด-19

 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าหนึ่งในแนวนโยบายของรัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ การส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว โดยสั่งการให้ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการปรับกลยุทธ์ของภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้สอดรับกับความปลอดภัยทางมาตรการสาธารณสุข การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย และความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับการสั่งการของนายกรัฐมนตรี และได้เตรียมส่งเสริมและการขยายการท่องเที่ยวในรูปแบบ Medical Tourism (การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์) และ Wellness Tourism (การท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ) เพื่อเป็นการปรับกลยุทธ์การท่องเที่ยวในปี 2565 ให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จากที่ให้ความสำคัญกับปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่สร้างมูลค่าสูง หรือมีค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่สูงแทน อาทิ การท่องเที่ยวในรูปแบบ Medical Tourism และ Wellness Tourism ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ที่ 80,000-120,000 บาท รวมถึงให้ความสำคัญกับคุณภาพของการท่องเที่ยวที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value added) ให้กับสินค้าและบริการ ในขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขพร้อมตอบรับเตรียมดำเนินการคู่ขนานตาม ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medial Hub) สนับสนุนการใช้สมุนไพรไทย เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพ ให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้รับความผ่อนคลายจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในแต่ละท้องถิ่น อาทิ บริการนวดไทยเพื่อสุขภาพ ซึ่งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่การท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย

“นายกรัฐมนตรีรับทราบความคืบหน้าจากการสั่งการให้แนวนโยบายและขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยดำเนินการตามแนวทางที่ได้สั่งการไป รวมทั้งนายกฯ ต้องการบรรเทาผลกระทบที่พี่น้องประชาชนในภาคการท่องเที่ยวได้รับ พร้อมยืนยันรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาและวางแผนเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวนี้ จะดึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยต่อยอดให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างคุณค่า นักท่องเที่ยวจะพบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการท่องเที่ยวในประเทศไทย และสามารถสร้างรายได้กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกมากอย่างแน่นอน”โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว. สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง