“อนุชา” ย้ำฟังเสียงทุกภาคส่วนก่อนออกประกาศธุรกิจให้เช่าซื้อรถฉบับใหม่

ทำเนียบรัฐบาล 29 พ.ย. – รมต.ประจำสำนักนายกฯ ถกแนวทางช่วยเหลือผู้บริโภค ย้ำฟังเสียงทุกภาคส่วนก่อนออกประกาศธุรกิจให้เช่าซื้อรถฉบับใหม่ ชี้หนี้นอกระบบคืออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) โดย สคบ.ได้รายงานผลการดำเนินงานเรื่องร้องทุกข์ประชาชน ประจำเดือนกันยายน 2564 จำนวนทั้งสิ้น 1,276 ราย แบ่งเป็น ด้านสัญญา 384 ราย ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง 377 ราย ด้านฉลาก 354 ราย และด้านโฆษณา 161 และได้มีการพิจารณาดำเนินการด้านอสังหาริมทรัพย์แก่ผู้ร้องทุกข์ จำนวน 9 เรื่อง ด้านสินค้าและบริการ จำนวน 6 เรื่อง นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 ซึ่งที่ผ่านมาภาคเอกชน ประกอบด้วย ผู้แทนสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทย ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย ผู้แทนสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และผู้แทนสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แสดงความกังวลต่อร่างประกาศดังกล่าวก่อนมีการบังคับใช้ โดยขอให้ฟังเสียงสะท้อนของเอกชนประกอบการพิจารณา

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศ คือ แวดวงยานยนต์ ที่ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลก ขณะเดียวกัน มีประชาชนได้รับผลกระทบวงกว้าง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินและภาระหนี้สินภาคครัวเรือน โดยที่ผ่านมา สคบ.ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ให้พิจารณาช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ดังนั้น ในการพิจารณาความเหมาะสมก่อนบังคับใช้ (ร่าง) ประกาศฉบับนี้ ต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งภาคประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความยากลำบากของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อลดภาระหนี้สินประชาชน และลดปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จึงขอให้คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ของ สคบ. พิจารณาห้วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อช่วยผ่อนคลายภาระหนี้ประชาชน ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ภาคธุรกิจยานยนต์ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วย ขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยให้ได้รับผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว