กรุงเทพฯ 29 พ.ย.- “นิพิฎฐ์” ยันตัดสินใจเดินหน้าอำลา ปชป. ไม่เปลี่ยนใจ เตรียมยื่นใบลาออกสัปดาห์หน้า ระบุไม่มีที่ยืนในพรรค ผู้บริหารไม่ให้เกียรติ ชี้ อยู่กับพรรคที่ให้เกียรติดีกว่า แย้มพรรคใหม่ไม่สุดโต่ง และไม่ร่วมบุคลากรสีเทา
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และ อดีตส.ส.พัทลุง ยอมรับกับสำนักข่าวไทยว่า ตัดสินใจที่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือลาออกที่พรรค เพราะได้ตัดสินใจแล้ว เนื่องจากตนไม่มีที่ยืนในพรรคประชาธิปัตย์แล้วจึงจำเป็นต้องไปหาที่อยู่ใหม่ โดยในระยะหลังผู้บริหารพรรค มีแนวนโยบายและความคิดในการบริหารและการปฏิรูปพรรคแตกต่างจากตน และตนไม่ได้รับการให้เกียรติจากพรรค เวลาทำอะไรก็ไม่ปรึกษาตน แม้กระทั่งการจะส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิมของตน ซึ่งตนเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคมา 3 สมัย แล้วอยู่ๆก็ส่งคนอื่นมา แล้วถอดคนที่เคยตกลงกันเอาไว้ จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ ซึ่งหากไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้การทำงานร่วมกันในอนาคตคงเป็นเรื่องยาก และคงมีเหตุการณ์ทำนองนี้อีก จึงคิดว่า ไปทำงานในพรรคที่ให้เกียรติตนดีกว่า ทั้งนี้ยืนยันยังเคารพนับถือพระแม่ธรณีบีบมวยผม และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม และยังไม่ได้ทันได้บอกนายชวน แต่ข่าวรั่วก่อน แต่ถึงอย่างไรก็จะยังไปกราบลานายชวน และยืนยันไม่เปลี่ยนใจ
“จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่มีการส่งผู้สมัครในเขตผมโดยไม่มีการปรึกษาผม ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่า เอาคนนี้แหละ แต่อยู่ๆเขามาถอดคนที่ผมตกลงกันไว้เฉยเลย อันนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติ และเขาก็ผิดข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้หลังจากที่ผมแพ้การเลือกตั้งว่า เขาต้องดูแลอดีตส.ส.ด้วย เราแพ้ 28 เสียง เราได้ 22 เสียงในภาคใต้ แต่ทั้ง 28 คน ผู้บริหารทิ้งหมดเลยไม่เคยดูดำดูดีทั้ง 28 คน อยู่ลำบากมาก จะหาเสียงให้พรรคจะส่งปฏิทิน โปสเตอร์ก็ต้องเติมน้ำมันเอง แต่กับส.ส.เขาดูแลดีมาก เพราะขณะนี้ผู้บริหาร 1 คน มี ส.ส.แค่ 4-5 คนก็ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว หากเป็นแบบนี้ ผมว่า พรรคไปไม่ได้” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่าจะย้ายไป ทำงานการเมืองกับกลุ่มของนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือกลุ่มสี่กุมารนั้น นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ความจริงตนคุยกับหลายพรรคการเมืองแต่ ดูถึงความเป็นไปได้และนโยบายในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก ที่สำคัญคือพรรคที่จะไปสังกัดใหม่ต้องไม่สุดโต่ง ไม่ซ้ายจัด ไม่ขวาจัด ไม่เติมอคติ ไม่เติมความแค้นความโกรธให้เกิดขึ้นในหัวใจของคนไทย ต้องถอดสลักความเครียดแค้นความชิงชังออกจากหัวใจของคนไทยให้ได้ และนำพาประเทศเดินหน้าหลังยุค covid-19 ให้ได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่ขอระบุว่า จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใด ขอให้รอหัวหน้าพรรคนั้นเป็นผู้ประกาศจะดีกว่า ย้ำ พรรคใหม่ที่จะไปสังกัดต้องเป็นพรรคที่ดีทั้งองค์ประกอบโครงสร้างของพรรค และบุคลากรที่จะมาสังกัดต้อง โปร่งใสหรือคลีน หากเป็นสีเทาตนก็ไม่ร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย