กกต.ขอบคุณประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง อบต.

กทม. 28 พ.ย.- กกต.เผยเลือกตั้ง อบต. จัดลงคะแนนได้ลุล่วงทุกหน่วย ขอบคุณประชาชนออกมาใช้สิทธิ พบการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ฉีกบัตร-ถ่ายรูปบัตรที่กาแล้ว คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 4 ทุ่ม

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังปิดหีบเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า การดำเนินการลงคะแนนในภาพรวมของทุกหน่วยเลือกตั้งยังสามารถดำเนินการจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนตามปกติทุกหน่วย ไม่มีเหตุที่สะดุดหยุดลงจนไม่สามารถดำเนินการลงคะแนนต่อไปได้ ซึ่งถือว่าทุกหน่วยเลือกตั้งได้ดำเนินการเปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ได้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ในระหว่างการลงคะแนนมีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในหลายกรณี อาทิ การถ่ายภาพบัตรลงคะแนนที่ทำเครื่องหมายแล้ว 1 หน่วยเลือกตั้ง ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และกรณีการฉีกบัตรเลือกตั้งซึ่งมีรายงานเบื้องต้นประมาณ 10 กว่าหน่วยเลือกตั้ง แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยที่ตรวจสอบแล้วคือ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาญจนบุรี โดยเจ้าพนักงานในหน่วยเลือกตั้งได้ดำเนินการส่งตัวให้พนักงานสอบสวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบสัดส่วนกับจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 6 หมื่นหน่วย กับหน่วยที่มีการกระทำความผิดยังเป็นส่วนน้อย ไม่ถึง 1% ซึ่งถือว่าในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการนับคะแนนหลังจากนี้ คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะทำหน้าที่นับคะแนนทั้งในส่วนของนายก อบต. และ ส.อบต. ไปพร้อมกัน โดยจะแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 4 คนทำหน้าที่นับคะแนน ซึ่งในตามกฎหมายเมื่อดำเนินการนับคะแนนแล้วจะห้ามประวิงเวลา ต้องดำเนินการนับไปอย่างต่อเนื่อง จนแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าการนับคะแนนในครั้งนี้แต่ละหน่วยเลือกตั้งจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยในส่วนของ ส.อบต.น่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการได้เลย ส่วน นายก อบต. จะต้องมีการนำคะแนนจากทุกหน่วยมารวมกัน อย่างไรก็ตามในภาพรวมแต่ละแห่งประมาณ 22.00 น. น่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการได้แล้ว ทั้งนี้ในส่วนการประกาศผลเลือกตั้ง หรือการรับรองผลการเลือกตั้งนั้น เมื่อ กกต. มีการตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ก็จะประกาสรับรองผลการเลือกตั้งให้แก่ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง แต่หากมีเหตุอันควรเชื่อว่าการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ไม่ว่าจะมีผู้ร้องเรียนกล่าวโทษหรือไม่ กกต.จะดำเนินการสืบสวนไต่สวนให้แล้วเสร็จและประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจัดเลือกตั้งใหม่หรือดำเนินการอื่นโดยเร็ว ไม่ช้ากว่า 60 วัน ดังนั้นวันสุดท้ายที่จะประกาศผลการเลือกตั้งหรือรับรองผลการเลือกตั้งคือวันที่ 27 ม.ค.2565 อย่างไรก็ตามในการประกาศผลการเลือกตั้งดังกล่าวจะไม่เป็นการตัดอำนาจและหน้าที่ กกต. ที่จะดำเนินการสืบสวนไต่สวนหรือวินิจฉัยเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามขอขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ทำหน้าที่โดยการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่ก็มีการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขที่กำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามการเลือกตั้ง อบต.ในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ด้าน ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงสถิติเรื่องร้องเรียนในการเลือกตั้ง อบต. ว่า ล่าสุดมีเรื่องร้องเรียน จำนวน 268 เรื่อง เป็นเรื่องซื้อเสียงมากที่สุด นอกนั้นเป็นเรื่องอื่นๆ เช่น การปิดป้ายไม่ถูกขนาด ไม่ตรงสถานที่ ผู้ช่วยหาเสียงไม่ได้แจ้ง ซึ่งเรื่องเหล่านี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบคำร้อง สถานการณ์โดยทั่วไปถือว่าปกติค่อนข้างที่จะเรียบร้อย แต่เรื่องซื้อสิทธิขายเสียงนั้นยังคงมีอยู่ ซึ่งเราก็มีชุดเคลื่อนที่เร็วยังได้รับรายงานอยู่ตลอดเวลา


เมื่อถามว่ากรณี อบต.บ้านใหม่ จ.นนทบุรี มีผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิไปแล้วยังพบว่ามีการหาเสียง และผู้มีสิทธิลงคะแนนให้หมายเลขผู้สมัครคนนั้นอยู่ กกต. จะดำเนินการอย่างไร นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า หากผู้สมัครถูกถอนชื่อ ตามกฎหมาย และระเบียบ จะถือว่าผู้สมัครหมายเลขนั้นไม่มี เมื่อทำเครื่องหมายไปแล้วจะวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสีย เช่นเดียวกับผู้สมัครที่เสียชีวิตก่อนวันเลือกตั้งก็จะถือว่าหมายเลขนั้นไม่มี ยกเว้นเสียชีวิตในวันเลือกตั้งหรือหลังวันเลือกตั้ง หมายเลขนั้นจะยังคงอยู่และเป็นคะแนนของเขาอยู่ นอกจากนั้น กกต.มีการส่งชุดสืบสวนสอบสวนส่วนกลางลงไปเก็บหลักฐานทั้งหมด ซึ่งจะมีการมาประมวลกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปอีกครั้งหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย