รัฐสภา 25 พ.ย.-กมธ.ป.ป.ช.เดินหน้าสอบปมผู้พิพากษาเอี่ยวสินบนบ.ยักษ์ใหญ่ พบข้อสงสัยตั้งสำนักกฎหมายไม่มีชื่อเสียงทำคดี ยืนยันไม่มีธง ชี้ถ้าจริงวงการตุลาการสะเทือนแน่
นายธีรัจชัย พันธุมาส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แถลงความคืบหน้ากรณีการจ่ายสินบนของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป สาขาประเทศไทยให้แก่ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่รัฐของไทย เพื่ออำนวยความสะดวกการเลี่ยงภาษีว่า ทางกมธ.ได้เชิญบุคคลหลากหลายมาให้ข้อมูล พบข้อสงสัยว่ามีความผิดปกติในการคัดเลือกสำนักงานกฎหมายมาทำคดีเกี่ยวกับภาษี โดยบริษัทโตโยต้าว่าจ้างสำนักงานกฎหมายมาทำคดีภาษีวงเงินค่าจ้างสูงหลักร้อยล้านบาท แต่สำนักกฎหมายที่มีชื่อเสียง มีความชำนาญด้านภาษี กลับไม่ได้รับมอบหมายให้ทำคดีหลัก จึงเป็นเหตุสงสัยว่าเหตุใดจึงไปตั้งสำนักงานกฎหมายที่ไม่มีชื่อเสียงทางด้านคดีเข้ามา และมีมูลเหตุมากมายที่ตรวจสอบพบ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้
“ากการตรวจสอบบริษัทโตโยต้า สำนักงานใหญ่ที่ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายวิลเมอร์เฮลสอบสวนภายในของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ช่วงระหว่างปลายเดือนสิงหาคม -พฤศจิกายน 2562 โดยตรวจสอบภายในประเทศ และเชิญบุคคลต่าง ๆ ในประเทศไทยให้ข้อมูลที่ประเทศญี่ปุ่น คือเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังตรวจสอบช่วงเดือนธันวาคม 2562 ถึงมกราคม 2563 มีคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย 6 คน และแจ้งยุติการจ้างงานสำนักกฎหมายอันนานนท์ ซึ่งจุดที่น่าสังเกตคือมีกระบวนการที่น่าสงสัยหรือไม่ บริษัทโตโยต้า สำนักงานใหญ่ ได้กดดันและสั่งพักงานนักกฎหมาย 6 คนและเลิกจ้างสำนักกฎหมายอันนานนท์ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ถือเป็นความผิดปกติในการบริหารของบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย เพราะบริษัทโตโยต้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ต้องมีระบบบริหารที่มีมาตรฐานและปฏิบัติธรรมาภิบาลที่ดี” นายธีรัจชัย กล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวว่า กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบคดีนี้ควบคู่กับสำนักงานศาลยุติธรรม โดยจะหาความจริงให้ปรากฎ กรณีกล่าวหาว่าผู้พิพากษาระดับสูง 3 คนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงหรือไม่ ถ้าจริงต้องหาทางดำเนินการให้เหมาะสม ถ้าไม่จริงต้องแก้ไขข้อกล่าวหาที่เสื่อมเสียแบบนี้ เพราะความเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมเป็นกระบวนการสุดท้ายที่ประชาชนจะได้รับความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม “ถ้าเป็นจริงจะสะเทือนวงการตุลาการอย่างมาก ยืนยันว่าเรื่องนี้กมธ.ไม่ได้ตั้งธงไว้ จะตรวจสอบตามข้อมูลที่ปรากฎ เชื่อว่าสำนักงานศาลยุติธรรมจะตรวจสอบเข้มข้นเหมือนเราเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย